แม่จ๋า...ลูกกลับมาพึ่งพิงอิงไออุ่น
วันชีวิตลูกว้าวุ่นเหมือนฝุ่นฝัน
แหงนมองแม่ทั้งน้ำตาล้าชีวัน
ขอแม่นั้นโปรดเมตตาและปราณี
เอียงแก้มน้อยปรอยน้ำตาที่ตักแม่
จริงแน่แท้มิมีใครให้เท่านี้
กี่ครั้งหนที่ทุกข์ทนหม่นชีวี
กลับมาพักตรงตักนี้มีพระพร
...................................................
ระลึกถึงวันฉลองแม่พระประจักษ์ที่เมืองลูร์ด
ที่ซึ่งเต็มไปด้วยบรรยากาศของความเชื่อ ความหวัง และความรัก
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ยังเยาว์
ในงานเยาวชนโลกที่ประเทศฝรั่งเศส
ครั้งแรกของการเดินทางสู่ลูร์ด
กับบรรดาผู้เชื่อมากมายที่เรียงรายต่อขบวนเพื่อรองน้ำศักดิ์สิทธิ์
ณ เวลานั้น ฉันกลับรู้สึกว่า
ฉันช่างเป็นคนที่มีความเชื่อน้อยนิด
เมื่อเข้าไปปะปนอยู่ในบรรดาผู้เชื่อมากมาย
ทุกครั้งที่ย้อนระลึกกลับไป
ก็ยิ่งรู้สึกถึงความเชื่ออันน้อยนิดของตนเองมากยิ่งขึ้น
จวบจนปัจจุบันนี้
หน้าที่การงานหล่อหลอมให้ฉัน
สัมผัสบรรยากาศแห่งความเชื่อในทุกวันเวลา
หน้าที่ครู...โดยเฉพาะครูคาทอลิกเช่นฉัน
กับการสอนความเชื่อของตนให้กับนักเรียนต่างความเชื่อ
ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกว่าพวกเขาพร้อมจะเชื่อมากกว่าฉันเสียอีก
ช่วงวันแห่งการฉลองการประจักษ์ของแม่พระที่ลูร์ด
ฉันถือโอกาสดีนี้ในการเปิดวีซีดีเรื่องราวการประจักษ์มา
ของแม่พระแก่นักบุญแบร์นาแด๊ต
ให้นักเรียนได้สัมผัสเรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดออกมา
สายตาสี่สิบกว่าคู่ต่อคาบเรียน
จดจ้องและฟังด้วยความตั้งใจ
แม้ว่าระหว่างการชมฉันจะแอบแทรกบ้างเป็นระยะ
ทุกคนต่างตื่นตาตื่นใจกับเหตุการณ์ที่ได้รับรู้
คำถามที่ฉันสอดแทรกกลับเป็นจุดเริ่มต้นของคำถามมากมาย
“น้ำพุยังไหลไหมครับ” “ทำไมเขาถึงหายคะ”
“ทำไมคนอื่นถึงไม่เห็นแม่พระคะ”
ยิ่งฉากที่นักบุญแบร์นาแด๊ตสวดหน้าถ้ำ
ลูกๆยังพร้อมใจกันสวดตามท่านนักบุญ
คลอไปกับเรื่องราวที่ชมร่วมกัน
หากในวันพิเศษนี้...ฉันจะขอพรให้กับตนเองบ้าง
ฉันก็ขอเพียงให้ใจของฉันอ่อนโยนพอที่จะเชื่อสุดจิตใจ
สมกับที่แม่รักและห่วงใย
คอยวอนขอพระพรและดูแลคุ้มครองเพื่อฉันตลอดมา
โดยเฉพาะในวันที่ฉันล้มลงอย่างสิ้นหวัง
หรือพลาดพลั้งอย่างหมดท่า
......................................... |