“ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้

ความรักไม่อิจฉา ความรักไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง

ไม่ทำสิ่งที่ไม่บังควร ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว

ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด”

(โครินธ์ 13:4-5)

.....................................

...เมื่อคราที่เราถูกแวดล้อมด้วยผู้คนมากมาย

การงาน และสังคมที่ยุ่งเหยิงในแต่ละวัน

เราก็ร้องเรียกหาความสงบ สันติและความเป็นส่วนตัว

อยากมีมุมเงียบๆของตนเองบ้าง

...เมื่อคราที่เราเหมือนถูกทอดทิ้งให้อยู่เพียงลำพัง

ยามมีปัญหา  ยามต้องการใครสักคนเข้าใจ

เรากลับต้องการคนรอบกายที่สนใจเรา

อยากให้เห็นเราเป็นส่วนหนึ่งของสังคมกลุ่มนั้นๆบ้าง

………………………..

....เมื่อเรามีความรักอยู่รอบตัว

เราก็อิ่มรัก ไม่ต้องการรักใดอื่นอีก

นอกจากแบ่งปันต่อออกไป

...เมื่อเรารู้สึกขาดรัก

เราก็ไขว่คว้าหารักจากคนรอบข้าง

เราไม่สามารถแบ่งสิ่งที่เราไม่มีให้กับใครๆได้

เราจึงต้องแสวงหาสิ่งที่เราขาดให้สมบูรณ์เสียก่อน

คนขาดรักเพราะไม่รู้จักรัก

ตีค่าความรักเป็นผลกำไรที่จะได้กลับคืนมา

ไขว่คว้าเพื่อครอบครองเป็นของตนเอง

มิใช่เพื่อความสุขของคนที่ตนรัก

……………………

ยิ่งไขว่คว้ายิ่งไกลห่าง

ไม่ปล่อยวางยิ่งห่างหาย

ความรักหรือคืออะไร

ยิ่งวิ่งไป ยิ่งไกลตา

ยิ่งแบ่งรักรักทวี

กลับมากมีด้วยคุณค่า

ผลความรักย้อนคืนมา

สุขอุรารักแท้จริง

............................