ความรักเจ้าเอ๋ย เจ้าอยู่แห่งหนใด

เหตุไฉนใครๆถึงคร่ำครวญหา

ไขว่คว้าหารักแต่รักกลับหนีไปจนไกลตา

เหมือนคนไร้ค่าหาใครรักก็ไม่มี

ยิ่งวิ่งวนค้นหารักไปทุกหนทุกแห่ง

กลับพบแต่ความแห้งแล้งบนหนทางนี้

หมดแล้วความใฝ่ฝันจะค้นหารักที่มี

กลับมาอยู่ตรงนี้ ตรงที่เดิม ที่ที่ไม่มีใคร

นั่งเงียบๆอยู่กับใจเย็นเชียบอย่างเหงาๆ

ห้องสีทึมครึ้มเทาช่างน่าเศร้าหนักหนา

หัตถ์อุ่นๆโอบเอื้อก็ยื่นอ้อมกอดมา

กระซิบเบาๆว่า “เรารอเจ้ามานานแสนนาน”

.......................................................

วันที่เราวิ่งวุ่นวายกับการตามหาฝันของตนเอง

วันที่เราเรียกร้องหาความรักจากใครสักคนที่พร้อมจะเข้าใจเราเสมอ

เราเหนื่อย เราท้อ เมื่อสิ่งที่เราไขว่คว้ามันยากเย็นเกินกำลังจะเอื้อมมาครอง

ณ จุดหนึ่งของความทดท้อ ทำให้เราหยุดทบทวนไตร่ตรอง

กลับมาอยู่กับตนเองในที่ที่คุ้นเคย

ความเงียบ....กับบทเพลงบรรเลงแผ่ว

ทำให้เราได้ยินเสียง และสัมผัสรักที่แท้จริง

เราไขว่คว้าหาอะไร  เราวิ่งออกไปไกลแสนไกลเพื่ออะไร

เราละสายตาจากความรักที่แท้จริงที่รอเราอยู่ใกล้ๆ

เพื่อทอดสายตาวิงวอนให้รักที่เลือนลอยอยู่บนฟากฟ้าลอยต่ำลงมาหาเรา

....................................................

ลูกขอขอบพระคุณ...ประสบการณ์ดีดีที่พระองค์ประทานให้ลูกเสมอ

วันที่ลูกเหนื่อยล้า ฟุ้งซ่าน เหมือนจะเป็นบ้า

พระองค์ทรงเตือนให้ลูกหยุดวุ่นวายผ่านร่างกายที่อ่อนล้า

ความเงียบและเสียงเพลงบรรเลงเป็นยาบำรุงให้ลูกผ่อนคลาย

พระองค์ทรงเรียกลูก “ลูกรัก พ่ออยู่ที่นี่ ในความเงียบ ในสมาธิ ในเสียงเพลงแผ่วเบา”

ลูกขอขอบพระคุณ

....................................................