“จงยืนหยัดมั่นคง จงคาดสะเอวด้วยความจริง
จงสวมความชอบธรรมเป็นเสื้อเกราะ
จงสวมความกระตือรือร้นที่จะประกาศพระวรสาร
แห่งสันติเป็นรองเท้า
จงถือความเชื่อเป็นโล่ไว้เสมอ
เพื่อดับธนูไฟของมาร”
(อฟ 6:14-16)
...........................................
ให้ความเชื่อที่มั่นคง
นำทางตรงสู่แผ่นดินสวรรค์
สวมใส่ความชอบธรรมไม่หวั่น
เป็นเกราะป้องกันภยันตราย
ให้ความกระตือรือร้น
หมั่นฝึกฝนปรนนิบัติพระไม่ห่างหาย
ประกาศข่าวดีแห่งรักไม่เสื่อมคลาย
เปลี่ยนสิ่งเลวร้ายให้กลับกลายเป็นสิ่งดี
..................................
เสียงพระทรงเตือนให้ระวังตนเองจากสิ่งเลวร้าย
ให้เตรียมตัวเองให้พร้อมเสมอเมื่อต้องดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบัน
หลายครั้งที่ฉันละเลย ปล่อยตัวเองไปตามวิถีโลก
ตามอารมณ์ ตามความรู้สึกของเนื้อหนัง
ฉันโกรธเมื่อเป็นผู้ถูกกระทำ
โดยไม่เคยคิดถึงแบบอย่างของพระเยซูเจ้าผู้ทรงถูกกระทำ
แต่พระองค์กลับให้อภัย
ฉันเบื่อหน่ายกับวิถีชีวิตเมื่อมีปัญหาประดังเข้ามา
โดยไม่คิดถึงแบบอย่างของพระเยซูเจ้าเมื่อครั้งที่เป็นเป้าสายตา
และคำดูถูกร้อยพัน ที่คอยจ้องจับผิดและพร้อมทำร้ายพระองค์
ฉันพะวงอยู่กับฐานะการเงิน เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน
โดยไม่คำนึงถึงกิจการของพระเยซูเจ้า
พระองค์ทรงเลี้ยงคนห้าพันคนด้วยความสงสาร
และพระองค์จะไม่ทรงเลี้ยงดูฉันเชียวหรือ
.....................................
ทุกครั้งที่เราปล่อยตัวปล่อยใจไปตามความต้องการของตนเอง
เราก็สลัดอาวุธที่พระมอบไว้ให้เพื่อป้องกันหมู่มารทิ้งเสีย
เราเอาร่างกายและวิญญาณอันอ่อนแอของเราวิ่งเข้าใส่ศัตรู
เราก็แพ้ เราก็บาปเจ็บ และอาจถูกจับไปเป็นเชลยของศัตรูก็ได้
พระองค์ทรงตักเตือนให้เรายืนหยัดมั่นคง
คาดสะเอวของเราด้วยความจริง
สวมความชอบธรรมเป็นเกราะให้วิญญาณ
สวมความกระตือรือร้นที่จะประกาศพระวาจาแห่งสันติ
เป็นรองเท้าให้เราก้าวเดินไปทุกที่เพื่อนำข่าวดีนี้ไปบอกต่อ
ถือความเชื่อเป็นโล่ป้องกันตัวเองจากเหล่ามารร้าย
แล้วเราก็จะเป็นพลทหารที่พร้อมเสมอ
เมื่อศัตรูหมายจะทำร้ายเราและพระอาณาจักรของพระองค์
................................................ |