“อย่าทะนงตน เกรงว่าจะล้ม

แล้วจะต้องอับอายขายหน้า”

(บุตรสิรา 2:27)

................................................

ในวันที่ชีวิตของฉันเต็มไปด้วยหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมาย

พระส่งพี่ที่แสนดีท่านหนึ่งมาสะกิดดวงใจของฉัน

ให้หยุดก้าวและหันกลับมามองข้างหลังบ้าง

ว่าฉันเดินออกนอกเส้นทางบ้างหรือเปล่า

พี่ที่แสนดีของฉันส่งบทความสั้นๆเรื่องหนึ่งมาให้ฉันทบทวนตนเอง

ฉันอ่านทบทวนไปมาและไตร่ตรองชีวิตตนเองอีกครั้งหนึ่ง

.............................................

บทความนี้เล่าไว้ว่า..........

“เช้านี้ ข่าวใหญ่ ระดับโลก NOKIA..ขายกิจการ..เพราะตามโลกไม่ทัน.. ?

เจ้าของแบรนด์โทรศัพท์มือถือดัง ของฟินแลนด์  ที่มีประวัติยิ่งใหญ่มาอย่างยาวนาน..

ต้องล้มเลิกและขายกิจการมากกว่า 260,000 ล้านบาท รวมถึงพนักงาน มากกว่า 30,000 คนให้กับ บริษัท ไมโครซอฟท์ ของอเมริกาเพื่อมาต่อยอดการพัฒนาโทรศัพท์ในรูปแบบ smart phone เพื่อเพิ่มยอดขายแข่งขันกับ apple   และ samsung ที่ครองตลาดรายใหญ่ในโลกการสื่อสารไร้พรมแดนในขณะนี้ ?? สาเหตุที่สำคัญ...มาจาก 1.ในอดีตที่ผ่านมา ผู้บริหาร NOKIA ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงโลกอนาคตและด้วยเชื่อมั่นว่า แบรนด์โนเกีย..แข็งแกร่งและสร้าง brand royalthy ได้อย่างเหนี่ยวแน่นเพราะในขณะนั้น คนทั่วโลกวิ่งเข้าหา โนเกีย..จึงให้ความสำคัญกับตัวเอง  มากไปกว่าการพัฒนาของคู่แข่งขัน  ที่ใช้กลยุทธ strategic  differentiate + vision ที่มองไปในเรื่องของการสร้างและการขยายตลาดและมูลค่าในอนาคต future value แบบไม่ยึดติดกับเรื่องราวในปัจจุบัน . 2.ประเมินคู่แข่งขันเล็กเกินไป..นั่นคือ..มั่นใจในศักยภาพตัวเองสูง..และไม่เชื่อว่าจะมีใครพัฒนาตามทันและสร้าง ส่วนแบ่งทางการตลาดหรือ marketshare ได้เหนือกว่าตัวเอง 3.ไม่ยอมพัฒนาตัวเอง  และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ new innovation create product ให้เป็นทางเลือกของกลุ่มเป้าหมาย ..และไม่สามารถสร้างกลุ่มนักบริหารและนักวิจัยกระแสของโลกในอนาคตได้รวดเร็วเท่ากับคู่แข่งขัน.. 4.ทั้งหมดคือความล้มเหลวของ โนเกีย... ???? แล้วถ้าเป็นที่นี่....... ?สิ่งดีๆมีเสียงแว่วๆดังมาเข้าหูคุณทุกวินาที  เงี่ยหูฟังมากกว่าคิดเองพูดเอง  แบบไม่เกรงใจใคร.."คนที่เข้าใจว่าตัวเองฉลาดล้ำ แท้ที่จริง โง่ลึกมากกว่า " ที่คนอื่นจะเข้าใจ ในสายตาคู่แข่ง..อย่างโนเกีย.. ???อย่ายึดติดกับความสำเร็จในปัจจุบัน ที่มีคนชื่นชมและยกย่องจงพัฒนาตัวเองให้สูงขึ้น มีมูลค่าต่อตัวเองมากขึ้นตลอดเวลา ???ตำแหน่ง เป็นแค่ช่วงของเวลา  แต่ตำนาน เป็นเรื่องราวที่อยู่ในใจผู้ คนตลอดชีวิต..อย่าเป็นผู้นำแค่ในตำแหน่ง..แต่ไม่เคยนั่งอยู่ในใจคนและทีมงาน”

.........................................

“อย่าให้วิถีชีวิตของตน       เตลิดหลงหลุดพ้นจากความเมตตา

อย่าให้ตำแหน่งหน้าที่มาวัดค่า     ว่าตนเองเหนือกว่าหรือสูงค่ากว่าใครใคร

เพราะในความเป็นจริง    ทุกทุกสิ่งต่างเปลี่ยนแปลงไปได้

ที่เคยสูงเด่นอาจตกลงมาบาดเจ็บเจียนตาย   จนน่าอับอายทนไม่ได้กับสิ่งที่เป็น

ขออย่าให้ลูกหยิ่งหลงทะนงตนเอง      สิ่งที่ลูกควรยำเกรงคือพระองค์ผู้สูงเด่น

ลูกเป็นเพียงข้ารับใช้ เป็นเพียงผู้ทุกข์ยากลำเค็ญ  

ที่ควรใช้ชีวิตที่ซ่อนร้อนจากความโดดเด่นที่ไม่เห็นพระองค์บนเส้นทาง

.....................................................