“....อนิจจัง อนิจจัง อนิจจัง สารพัดอนิจจัง
ที่มนุษย์ทำงานตรากตรำกลางแดด เขาได้ประโยชน์อะไรจากงาน ที่เขาทำนั้น
ชาติพันธุ์หนึ่งล่วงไป และอีกชาติพันธุ์หนึ่งก็มา แต่แผ่นดินโลกคงเดิมอยู่เป็นนิตย์”

(ปัญญาจารย์ 1:2-4)

...................................................

 

อยากเป็นกำลังใจให้ในวันที่เธอเหนื่อยล้า

อยากให้เธอรู้ถึงคุณค่าว่าพระรักเธอมากแค่ไหน

อยากให้เธอรับรู้ว่าใครคนหนึ่งที่คอยห่วงใย

และไม่มีใครจะรักเธอได้มากเพียงพอ

พระเยซูนั้นไง....คนดี

ท่านมองเธออยู่ตรงนี้ แม้เธอไม่เคยร้องขอ

สิ่งที่เธอไขว่คว้า สิ่งที่เธอตั้งตาคอยรอ

พระองค์จะประทานให้เพียงพอและเหมาะสมกับเธอ

....................................

อนิจจัง...กายเนื้อเอ๋ย...

พอเวลาล่วงเลยกายเนื้อก็เปลี่ยนไป

จากความอิ่มเอิบสวยงามสดใส...

กาลเวลาผ่านไปก็เหลือเพียงเศษเถ้าใช่ไหมคนดี

ยึดติดกับกายเนื้อก็ทุกข์

เคยมีใครสุขเพราะกายเนื้อเป็นอมตะไหมนี่

สิ่งที่หลงเหลืออยู่ให้จดจำคือคุณความดี

ที่จะถูกบันทึกไว้บนโลกใบนี้และบนสวรรค์เป็นนิรันดร์

...............................................

ใครคนหนึ่งเข้ามาปรับทุกข์เรื่องความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตนเอง

และรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

ทั้งปัญหาชีวิตและสุขภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

ฉันขอบคุณใครคนนั้นสุดหัวใจ

ด้วยนั่นเป็นเสียงเตือนของพระให้ฉันระลึกว่า...

ฉันเองก็ไม่ควรยึดติดกับกายเนื้อเช่นกัน

ฉันแบ่งปันใครคนนั้นว่า...

เมื่อครั้งที่เรายังสวยสดงดงามใครต่อใครก็เข้ามาชื่นชม

คำชื่นชมนั้นทำให้เราเหลิง  จองหอง

เหมือนตนเองเป็นดารา เป็นที่สนใจของคนรอบข้าง

จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเวลาพัดพาเอาความสดใสของวัยวันผ่านไป

และเริ่มมีเสียงติติงแนะนำว่ากายเนื้อของเราไม่สดใสดังเดิม

เราจะยังรับมันได้ไหม

ฉันก็เป็นเช่นนั้น

ทุกวันที่เด็กๆจะวิ่งเข้ามากอดและทักทายชื่นชมฉัน

พี่ๆเพื่อนๆร่วมงานจะชื่นชมความอ่อนวัยกว่าอายุของฉัน

คำชื่นชมที่เกิดขึ้นทุกวันทำให้ฉันแอบเก็บความจองหองไว้ภายใน

จนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนคนหนึ่งทักว่าฉันเริ่มมีร่องรอยแห่งวัยวัน

และเสียงนั้นก็เริ่มมีเกิดขึ้นประปรายในบางวัน

อนาคตอาจจะมีเกิดขึ้นทุกวันตามกาลเวลาของกายเนื้อที่เปลี่ยนไป

ฉันจึงได้สำนึกว่า...ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จีรังยั่งยืน

ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

แต่ความดีเท่านั้นที่จะยังคงอยู่กับเรา

และเป็นเรื่องเล่าสืบต่อไปให้ภาคภูมิใจตราบนานเท่านานชนิดไม่มีอายุขัย

ใช้พระพรที่พระมอบให้ในทุกด้านให้คุ้มค่า

คุ้มกับความรักที่พระมอบพระพรนั้นให้กับเราเป็นพิเศษ

.......................................................