อยากเป็นกำลังใจให้ในวันที่เธอเหนื่อยล้า
อยากให้เธอรู้ถึงคุณค่าว่าพระรักเธอมากแค่ไหน
อยากให้เธอรับรู้ว่าใครคนหนึ่งที่คอยห่วงใย
และไม่มีใครจะรักเธอได้มากเพียงพอ
พระเยซูนั้นไง....คนดี
ท่านมองเธออยู่ตรงนี้ แม้เธอไม่เคยร้องขอ
สิ่งที่เธอไขว่คว้า สิ่งที่เธอตั้งตาคอยรอ
พระองค์จะประทานให้เพียงพอและเหมาะสมกับเธอ
....................................
อนิจจัง...กายเนื้อเอ๋ย...
พอเวลาล่วงเลยกายเนื้อก็เปลี่ยนไป
จากความอิ่มเอิบสวยงามสดใส...
กาลเวลาผ่านไปก็เหลือเพียงเศษเถ้าใช่ไหมคนดี
ยึดติดกับกายเนื้อก็ทุกข์
เคยมีใครสุขเพราะกายเนื้อเป็นอมตะไหมนี่
สิ่งที่หลงเหลืออยู่ให้จดจำคือคุณความดี
ที่จะถูกบันทึกไว้บนโลกใบนี้และบนสวรรค์เป็นนิรันดร์
...............................................
ใครคนหนึ่งเข้ามาปรับทุกข์เรื่องความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตนเอง
และรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น
ทั้งปัญหาชีวิตและสุขภาพร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
ฉันขอบคุณใครคนนั้นสุดหัวใจ
ด้วยนั่นเป็นเสียงเตือนของพระให้ฉันระลึกว่า...
ฉันเองก็ไม่ควรยึดติดกับกายเนื้อเช่นกัน
ฉันแบ่งปันใครคนนั้นว่า...
เมื่อครั้งที่เรายังสวยสดงดงามใครต่อใครก็เข้ามาชื่นชม
คำชื่นชมนั้นทำให้เราเหลิง จองหอง
เหมือนตนเองเป็นดารา เป็นที่สนใจของคนรอบข้าง
จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อเวลาพัดพาเอาความสดใสของวัยวันผ่านไป
และเริ่มมีเสียงติติงแนะนำว่ากายเนื้อของเราไม่สดใสดังเดิม
เราจะยังรับมันได้ไหม
ฉันก็เป็นเช่นนั้น
ทุกวันที่เด็กๆจะวิ่งเข้ามากอดและทักทายชื่นชมฉัน
พี่ๆเพื่อนๆร่วมงานจะชื่นชมความอ่อนวัยกว่าอายุของฉัน
คำชื่นชมที่เกิดขึ้นทุกวันทำให้ฉันแอบเก็บความจองหองไว้ภายใน
จนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนคนหนึ่งทักว่าฉันเริ่มมีร่องรอยแห่งวัยวัน
และเสียงนั้นก็เริ่มมีเกิดขึ้นประปรายในบางวัน
อนาคตอาจจะมีเกิดขึ้นทุกวันตามกาลเวลาของกายเนื้อที่เปลี่ยนไป
ฉันจึงได้สำนึกว่า...ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จีรังยั่งยืน
ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
แต่ความดีเท่านั้นที่จะยังคงอยู่กับเรา
และเป็นเรื่องเล่าสืบต่อไปให้ภาคภูมิใจตราบนานเท่านานชนิดไม่มีอายุขัย
ใช้พระพรที่พระมอบให้ในทุกด้านให้คุ้มค่า
คุ้มกับความรักที่พระมอบพระพรนั้นให้กับเราเป็นพิเศษ
.......................................................