“ใจร่าเริงเป็นยาอย่างดี  แต่จิตใจที่หมดมานะทำให้กระดูกแห้ง”

(สุภาษิต 17:22)

............................................................

ดอกไม้แสนสวย..แย้มบานอยู่ในที่แห้งแล้ง

ก็ทำให้พื้นที่แห้งแล้งนั้นดูสดชื่นขึ้นได้

รอยยิ้มงดงาม...แม้อยู่ในที่ที่รุ่มร้อน

ก็ทำให้ไอร้อนเบาบางลงได้เช่นกัน

.................................................

เมื่อครั้งสมัยที่ฉันเรียนอยู่โรงเรียนเซนต์แอนโทนี

ในวันที่จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น

เพื่อนๆต่างนำเฟรนชิฟมาแลกเปลี่ยนกันเพื่อเขียนความในใจของตนเอง

รวมถึงบรรยายประวัติส่วนตัว ที่อยู่ คติประจำใจลงไปด้วย

สิ่งที่ฉันไม่ลังเล และไม่ต้องใช้เวลาในการคิดเลยก็คือ คติประจำใจ

“รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ”

คือสิ่งที่ฉันเขียนลงไปเป็นตัวแทนของความเป็นฉันทั้งหมด

มันเป็นสมบัติชิ้นเดียว เป็นของขวัญที่มีค่าที่สุด

ที่พระมอบให้ฉันมาตั้งแต่เกิด

ฉันเป็นเด็กเรียนอ่อน  ขี้ขลาด  ไม่มั่นใจในตนเอง

แต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของฉัน คือเกราะคุ้มกันภัยให้ฉัน

ผ่านพ้นจากคำดูถูก  เหยียดหยาม  คำประณามต่างๆ

ในด้านลบของชีวิตฉัน

ขณะที่ฉันต้องเรียน และใช้ชีวิตคู่ไปกับพี่สาวที่เราอายุต่างกันเพียงปีเดียว

และเธอกลับฉลาดปราดเปรียว  มั่นใจในตนเอง ทั้งยังมีความสามารถรอบด้าน

ดังนั้น พระจึงส่งพี่สาวของฉันมาเพื่อเป็นเกราะคุ้มกันภัยฝ่ายกายให้กับฉัน

ประทับรอยยิ้มและเสียงหัวเราะไว้บนใบหน้าของฉัน

เพื่อเป็นเกราะคุ้มกันภัยฝ่ายใจให้กับฉันด้วย

พระเจ้าตรัสว่า เพราะเรารู้แผนงานที่เรามีไว้สำหรับเจ้า เป็นแผนงานเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุกขภาพ เพื่อจะให้อนาคตและความหวังใจแก่เจ้า

เยเรมีย์ 29:11:

.................................................................

พ่อสอนว่า...เมื่อพระมอบของขวัญใดให้กับเรา

เป็นพรสวรรค์หรือสิ่งที่ดีดีในชีวิต

เราควรที่จะมอบต่อ หรือใช้ให้เป็นประโยชน์ที่สุด

เพราะหากเราไม่ใช้มัน...อีกไม่นานพระก็จะเรียกกลับคืน

..........................................................