พักเที่ยงวันนี้  ครูประจำชั้นห้องลูกชายคนเล็ก “น้องน้ำเสก”

เดินมาแจ้งว่า เจ้าลูกชายคนเล็กจอมซนกินขนมเสร็จแล้วทิ้งขยะไว้

ฉันรับปากกับครูของลูกชายและตั้งใจจะกลับไปจัดการเจ้าตัวดีซะหน่อยหนึ่ง

ทั้งๆที่ในใจยังรู้สึกขัดแย้งว่า “จริงหรือ”

ถึงน้องน้ำเสกจะซุกซน  ขี้เล่น  ทะเล้น  จอมกวน

แต่น้องน้ำเสกเป็นเด็กที่มีจิตใจดี  แบ่งปันช่วยเหลือคนอื่นเสมอ

ความรู้สึกขัดแย้งในใจยังคงค้างคาอยู่จนเลิกเรียน

น้องน้ำเสกวิ่งมาหาเหมือนทุกวัน กระโดดกอด และโหนตัว ขี้เล่นเหมือนเคย

ฉันจับหน้าเจ้าจอมซนเงยขึ้นและถามว่าวันนี้ทำอะไรผิดมาหรือเปล่า

น้องน้ำเสกทำเสียงจุ๊ จุ๊ เหมือนห้ามและดึงฉันออกมาจากกลุ่มเพื่อนตรงนั้น

ก่อนจะมาหลบมุมอาคารแล้วเล่าว่า

เพื่อนรักของเขาโยนขยะใส่เขา  เล่นกันไปมา

แต่เพื่อนที่ไปฟ้องครูบอกว่าเป็นขยะของน้ำเสก

แต่น้ำเสกไม่มีอะไรแล้ว ครูจัดการเรียบร้อยแล้ว แม่ไม่ต้องพูดอะไรอีกนะ

ฉันยังคง งง งง กับคำอธิบายของเจ้าจอมซน

จวบจนกระทั่งก่อนกลับบ้าน

ครูประจำชั้นของน้องน้ำเสกลงมาพบแล้วแจ้งว่าขอแก้ข่าวเมื่อเที่ยงที่บอกมานั้น

ได้ซักถามน้องน้ำเสกแล้ว เขาไม่ได้ทิ้ง

แต่เขาไม่ยอมบอกว่าใครทิ้ง  จนครูซักให้เขาพูด

น้องน้ำเสกกระซิบชื่อเพื่อนรักออกไปแบบไม่สบายใจเลย

ครูเรียกเพื่อนของน้องน้ำเสกออกมา เพื่อนยอมรับว่าเป็นของตน

ครูจึงทำโทษเพื่อนให้เก็บขยะ 50 ชิ้น

ครูเล่าว่า น้องน้ำเสกรีบออกตัวบอกกับครูว่า ขอช่วยเพื่อนเก็บ 30 ชิ้น

ฉันกลับมาถึงบ้านด้วยความชื่นใจในดวงใจดวงเล็กๆที่น่ารักของน้องน้ำเสก

และขอบคุณพระสำหรับของขวัญน่ารักๆชิ้นนี้เสมอ

บางที ฉันก็แอบหวั่นๆในใจ เมื่อนึกถึงวันที่จะส่งเขาไปเข้าบ้านเณร

เพราะเขาเป็นสีสันของครอบครัวจริงๆ

แต่ทุกเส้นทางพระย่อมทราบดีว่าสิ่งใดสมควรกับใคร อย่างไร

ลูกขอฝากเจ้าตัวเล็กไว้ในความดูแลของพระองค์ด้วยเถิด

.........................................................................................

สอนชีวิตด้วยชีวิต

สอนด้วยจิตอันสูงค่า

สอนด้วยรักและเมตตา

สอนคุณค่าแห่งตัวตน

...................................................