จงรักศัตรูของท่าน

และจงอธิฐานเพื่อผู้ที่ข่มแหงท่าน

(มัทธิว 5:44)

.........................................................

ไม่ว่าจะเลือกเดินไปในเส้นทางใด

ก็ดูเหมือนจะไม่ปลอดภัยสักเส้นทาง

อันตรายที่อยู่เบื้องหน้าบนเส้นทางอ้างว้าง

ทำให้น้ำตาพรูพร่างเหมือนถูกวางไว้ในที่ว้างเพียงลำพัง

จะถอยหลังกลับมานับหนึ่งใหม่

แล้วก้าวเดินไปในเส้นทางสายแห่งความหวัง

มีพระผู้ทรงนำทางคอยต่อเติมเสริมพลัง

และคอยฉุดรั้งในวันที่พลาดพลั้งหลงทาง

...........................................................................

สายตาดูแคลนคู่หนึ่งส่งมายังฉัน

โดยที่ฉันไม่ทราบที่มาที่ไปแน่ชัดถึงสาเหตุของสายตาคู่นั้นเลย

หากจะใช้การคาดเดาก็อาจจะเป็นความขัดแย้งกันทางความคิด

หรือไม่ฉันก็อาจจะทำสิ่งใดขัดต่อความรู้สึกของเขา

อันที่จริงแล้วฉันก็พยายามนึกถึงประโยคที่ว่า

คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ

หลายครั้งที่ฉันย้ำกับตนเองว่า ฉันเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร

แต่เป็นคนที่พยายามจะเป็นคนดีให้ได้ก็เท่านั้นเอง

ฉันยังมีอารมณ์รัก โลภ  โกรธ  หลง เหมือนทุกคน

อาจจะดูใจดีสำหรับเด็กๆนักเรียนตัวน้อยๆ

อาจจะดูใจร้ายในบางเวลาสำหรับบางคน

อาจจะแลดูเอาแต่ใจตนเองในบางแง่มุม

และอื่นๆที่เป็นกิจการของมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา

ฉันก็เป็นเช่นนั้น

...........................................................

ฉันเดินทางมาพร้อมกับภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่

พระฉายาลักษณ์ของพระองค์

บนเส้นทางเดินนั้นมีขวากหนามและโขดหินเรียงราย

ฉันหกล้มคลุกคลานมอมแมมไปตามเส้นทางสายนั้น

เสียงหัวเราะเยาะเย้ยเมื่อฉันพยายามจะลุกขึ้น

เพราะสภาพมอมแมมของฉันไม่ได้ลบเลือนไปจากความรู้สึกของบางคน

ฉันกำลังพยายามจะแสดงตนเองให้เด่นชัด

ด้วยความสามารถอันแสนจำกัดของฉัน

ฉันพยายามเปิดตัวเองเพื่อให้พระฉายาลักษณ์ของพระองค์

โดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางเส้นทางที่เต็มไปด้วยขวากหนามและสัตว์ร้าย

ให้พระองค์ทรงนำฉันไปในทุกเส้นทาง

ผ่านเสียงเย้ยหยัน เสียงคำรามขู่ขวัญ คำสบประมาทนานาประการ

สู่เส้นชัยเฉพาะพระพักตร์พระองค์

โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคข้างทางเลย

.........................................................

**ในวันที่ไม่เข้าใจสายตาของใครบางคนจนทำให้ทุกข์ใจ

แต่ก็จะให้อภัย เพราะบางทีฉันอาจทำอะไรผิดพลาดไปก็ได้**