“จงมีใจโอบอ้อมอารี มีเมตตาต่อกัน
ให้อภัยกันดังที่พระเจ้าทรงให้อภัยแก่ท่าน
ในองค์พระคริสตเจ้าเถิด”
(เอเฟซัส 4:32)
................................................
ลูกจ๋า...ทำใจให้ร่มเย็นไว้เถิด
ลูกไม่ชอบใคร ลูกไม่ถูกใจใครให้ลูกจงเก็บไว้ในใจ
การแสดงความรู้สึกทางลบบางอย่างออกมา
บางทีก็จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไป
ความรู้สึกที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง การบาดหมาง
การทำร้ายจิตใจกันและกัน
นอกจากลูกจะทำให้เขารู้สึกเจ็บแล้ว
สุดท้ายตัวลูกเองก็เจ็บไม่แพ้กันเลย
ลูกรัก...ทำใจให้ร่มเย็นดั่งต้นไม้ใหญ่ใบหนาเถิด
นิ่งสงบและให้ร่มใบบังแก่หมู่มวลนกกาใหญ่น้อย
หากลูกเป็นเพียงต้นไม้ใหญ่ที่ไร้ใบบัง
ลูกก็เป็นเพียงต้นไม้ที่ใกล้จะแห้งตายมิใช่หรือ
นอกจากลูกจะเป็นที่คุ้มกันบังใจให้ใครไม่ได้แล้ว
ตัวลูกเองก็ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ด้วย
เช่นกันนะลูกรัก...ขอให้ลูกยอมรับความแตกต่างของกันและกัน
เพราะสิ่งที่เขาเป็น อาจจะเป็นมุมมืดของเขา
เหมือนที่ลูกเองก็มีมุมมืดของตนเอง
แต่ทุกคนก็ต้องการแสงสว่างเพื่อการเดินทางไม่ใช่หรือ
จงเป็นต้นไม้ใบหนาเถิดนะลูกรัก
......................................................................................
ในวันที่ลูกศิษย์ในพระคริสตเจ้ามีเรื่องบาดหมางใจกัน
คำพ่อสอนยังดังก้องในใจไม่รู้ลืมเลือน
ลูกเป็นคาทอลิก ลูกแสดงตนอย่างไรว่าลูกแตกต่างจากผู้อื่น
ลูกยังฉุนเฉียวเมื่อผู้อื่นขัดใจลูกอยู่หรือ
ลูกยังตะคอก ขู่ตะโกนต่อกันอยู่หรือ
ลูกยังโกรธแค้น และให้อภัยไม่ได้อยู่หรือ
สายตาของลูกยังแฝงความอาฆาตแค้นอยู่หรือ
ถ้าเป็นเช่นนั้นลูกก็ไม่ต่างอะไรกับโจร
เพราะพวกเขาก็รักเฉพาะพวกพ้องของเขาเช่นกัน
.........................................................
จงเป็นดั่งต้นไม้ใบหนา
ให้ที่พึ่งพาอาศัย
แก่เหล่านกกาที่ล้าใจ
หนีโพยภัยเข้ามาพึ่งพิง
หากเป็นเพียงต้นไม้ไร้ใบ
รอวันเหี่ยวแห้งไปไร้ทุกสิ่ง
มวลนกกาก็ไร้ที่พึ่งพักพิง
รอวันสูญสิ้นชีวาวาย
................................................................... |