“อย่าตัดสินเขาแล้วพระเจ้าจะไม่ทรงตัดสินท่าน
อย่ากล่าวโทษเขา แล้วพระเจ้าจะไม่ทรงกล่าวโทษท่าน...
จงเอาท่อนซุงออกจากดวงตาของท่านก่อนเถิด
ท่านจะเห็นชัดแล้วจึงค่อยไปเขี่ยเศษฟางออกจากดวงตาของพี่น้อง”
(ลก 6:37-42)
..............................................................
พ่อสอนว่า...การเป็นวิทยากรที่ดี
เวลาจะสอนใคร หรือยกตัวอย่างที่ไม่ดีให้ผู้ฟังได้รับฟัง
บุคคลที่เรากล่าวอ้างถึงในสิ่งที่ไม่ดีควรจะเป็นตัวเราเอง
นั่นคือ นำประสบการณ์ผิดพลาดของตนมาเป็นข้อคำสอนให้คนอื่น
แต่หากจะกล่าวชื่นชมใครให้ยกตัวอย่างจากคนอื่นได้
ฉันชอบแนวคิดของพ่อซึ่งฉันเองก็คงได้รับการถ่ายทอด
แนวความคิดนี้มากับข้อคำสอนของพ่อตั้งแต่เล็กแต่น้อย
หลายครั้งที่ฉันเขียนบทความลงไป
แล้วย้อนกลับมาอ่านเพื่อให้มั่นใจว่า
ฉันกำลังมองข้อบกพร่องของตนเอง และกำลังใช้ประสบการณ์นั้น
บอกกับพี่น้องผู้อ่านว่า เป็นฉันเองที่อ่อนแอ และผิดพลาด
ฉันกำลังยกประสบการณ์ชีวิตที่อ่อนแอของฉันเป็นของขวัญให้ทุกคน
ฉันเคยผิดพลาดเมื่อเขียนกล่าวอ้างถึงบุคคลอื่นในทางที่ไม่ดี
และมันยังคงเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับฉันตลอดมา
ดังนั้น แบบอย่างชีวิตที่ดีที่สุด ในประสบการณ์ที่แย่ที่สุด
จึงควรจะมาจากตัวฉันเอง
พ่อสอนฉันว่า เวลามองข้อบกพร่องคนอื่นให้มองตัวเราก่อน
เราทำได้ดีหรือไม่ เราเป็นคนดีพอหรือยัง
ถ้าเรายังทำดีไม่พอ เราไม่มีสิทธิ์จะไปตัดสินใครว่าถูกหรือผิดเลย
ฉันใช้คำสอนของพ่อ มองย้อนดูตัวเอง
มองความบกพร่องของตนเองเพื่อให้ตนเองได้สุภาพนบนอบต่อผู้อื่น
ไม่ใช่ดูถูกตนเองเพราะความผิดพลาดบกพร่องของชีวิต
แต่เพื่อให้ตนเองมีใจสุภาพพอที่จะรอรับการอภัยจากพระเช่นกัน
............................................................................
“ก่อนมองความผิดพลาดของผู้ใด
จดจำไว้มองดูตนเองเสียก่อน
ความสุภาพนบนอบนำมาซึ่งพระพร
ให้คืนย้อนกลับสู่ชีวิตของตัวเราเอง”
..................................................................... |