“พระเจ้าทรงเห็นว่าทุกสิ่งที่ทรงสร้างนั้นดีมาก”
(ปฐก 1:31)
...............................................................
ช่วงฤดูแห่งการเก็บเกี่ยวมะม่วงแห่งเมืองแปดริ้ว
ในทุกๆปีฉันจะได้ลิ้มรสมะม่วงจากสวนบ้านพ่อแม่เสมอ
ปีนี้ก็เช่นกัน เป็นปีที่พิเศษเพราะมะม่วงอกร่องกำลังออกลูกเต็มต้น
มะม่วงอกร่องที่มีรสชาติหอมหวานหาซื้อได้ยากแล้วในปัจจุบันนี้
และยิ่งเป็นมะม่วงอกร่องที่เติบโตตามธรรมชาติ
ไม่เร่งสารใดใด รอจนแก่จัดแล้วจึงนำมาบ่ม
รสชาติจะหอมหวานเป็นพิเศษทีเดียว
นึกถึงข้าวเหนียวมูลอุ่นๆ ราดกะทิ
แปะหน้าด้วยเนื้อมะม่วงอกร่องสีทองหอมหวน
จะอร่อยเพียงใด
โดยธรรมชาติลักษณะรูปร่างของมะม่วงจะละม้ายคล้ายคลึงกัน
หากแต่จะแตกต่างกันเล็กน้อย
เช่น มะม่วงน้ำดอกไม้ก้นจะแหลมๆ เล็กน้อย
มะม่วงแรดจะมีนอน้อยๆขึ้นข้างบนลูกด้วย
มะม่วงเขียวเสวยผิวจะสีเขียวเข้ม รูปทรงยาวๆ
มะม่วงทุเรียนลูกจะออกกลมๆ น่าเอ็นดู มีกลิ่นแรงพอสมควร
อย่างไรก็ตาม โดยปกติรูปพรรณสัณฐานของมะม่วงทุกชนิดไม่แตกต่างกันมากนัก
แต่ที่บ้านแม่ของฉันมีมะม่วงพันธุ์พิเศษ
ฉันเรียกมันว่า “มะม่วงอกร่องพิการ”
ในขณะที่ลูกปกติจะมีผิวที่เรียบเนียนสวยงาม
แต่อกร่องพิการจะมีลักษณะปูดโปนและอวบอ้วนกว่าปกติ
ฉันนึกถึงหน้าคนที่ถูกต่อต่อยจนเต็มใบหน้า
เมื่อแม่บ่มมะม่วงอกร่องจนสุกแล้ว
ฉันก็เลือกหยิบเฉพาะลูกสวยๆ ผิวนวลๆ มารับประทาน
ในขณะที่หยิบเจ้ามะม่วงพิการมาพลิกไปมาดูเล่น
และนึกรังเกียจอยู่ในใจ
ในลูกนี้มีอะไรผิดปกติอยู่นะ ทำไมมันถึงออกมาบูดเบี้ยวเช่นนี้
แม่บอกฉันว่า ก็ลองชิมดูสิ มันอร่อยนะ
ฉันจึงตัดสินใจเลือกเจ้าบูดเบี้ยวขึ้นมาลูกหนึ่ง
ปอกเปลือก...อืม...เปลือกของเจ้าลูกมะม่วงพิการปอกง่ายมาก
ที่สำคัญ เนื้อของมันเยอะกว่าลูกปกติ
ในบริเวณที่มันปูดโปนกลายเป็นบริเวณที่มีเนื้อเยอะมาก
เสี้ยนในเนื้อก็แทบจะไม่มีเลยทีเดียว
.....................................................................
เราเคยตัดสินใครต่อใครด้วยการวางตนเองเป็นบรรทัดฐาน
คิดว่าตนเองเป็นคนที่มีความสมบูรณ์พร้อม
ยึดเอาความคิดของตนเองเป็นใหญ่
มองคุณค่าของคนรอบข้างต่ำลง
ทั้งด้วยความตั้งใจและไม่ตั้งใจ
เวลาเดินผ่านคนเสียสติข้างถนนฉันแสดงกิริยาอย่างไร
เวลามีเด็กยากจนเนื้อตัวมอมแมมเดินมาดึงชายเสื้อขอเงินฉัน ฉันรู้สึกอย่างไร
ในที่ทำงาน ฉันเดินย่ำลงไปบริเวณที่เขากำลังถูกพื้น พนักงานเสียงดังใส่ฉัน
ฉันคิดอย่างไร
ในความผิดปกติตามบรรทัดฐานของมนุษย์
เราไม่เคยมองเห็นความพิเศษในความผิดปกตินั้นเลย
คนเสียสติฉันเคยไปนั่งฟังเขาพูดหรือไม่
เขาพูดถึงประสบการณ์มากมายที่เขาเคยผ่านมา ประสบการณ์ที่ฉันไม่เคยได้สัมผัส
เด็กยากจนคนนั้นฉันเคยรับรู้ถึงชีวิตที่เลือกไม่ได้ของเขาหรือไม่
เขาหาเงินเพื่อแลกซื้อข้าวไปให้พ่อของเขาที่พิการอยู่ในสลัม
เขาสามารถทำทุกอย่างที่ฉันในวัยนั้นไม่เคยทำได้เลย
พี่พนักงานที่เสียงดังใส่ฉัน เขาทำงานมากกว่าฉันกี่เท่า
ในขณะที่ฉันกำลังเดินกลับบ้าน เขากำลังทำความสะอาดสิ่งที่พวกฉันทำสกปรก
........................................................
“คุณค่าของความไม่สมบูรณ์
คือการเพิ่มพูนเพื่อกันและกัน
ในคำว่าไม่ใช่มีคำว่าใช่แฝงในคำนั้น
เพียงแค่มุมมองต่างกันก็ตีความหมายนั้นแตกต่างไป
มองเขาว่าด้อยกว่า
สิ่งพิเศษที่มีค่าของเขา เราก็ปิดตาเอาไว้
พระพรอื่นหมื่นแสนที่เขามีเราก็ไม่ใส่ใจ
ตีตราเขาเอาไว้ว่าเป็นคนไม่สมบูรณ์
มองเขาว่ามีสิ่งดี
ให้โอกาสทันทีที่จะช่วยเหลือเกื้อหนุน
พระพรแห่งความแตกต่างจะทวีเพิ่มพูน
กลายเป็นการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน”
................................................................................... |