“ด้วยวันนี้ลูกล้มลงตรงข้างทาง
และสายฝนก็พรายพร่างบนหนทางเส้นนี้
น้ำตาปนสายฝนไหลหล่นเปียกปอนชีวี
หมดเรี่ยวแรงเต็มที่ซบหน้าลง ณ บนผืนดิน
บาดเจ็บจากบาดแผลที่ฝ่าฟันมา
หนาวเหน็บกับน้ำตาที่พร่าพรมล้มแดดิ้น
วันที่สูญสลายกลับไม่มีใครมายลยิน
ปล่อยให้ดวงใจมลายสิ้น...อย่างเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย”
............................................
พระองค์ตรัสว่า “มาเถิดลูกรัก เราคือที่พักริมทาง
ยามลูกไร้ร้าง หมดทางไป..ดวงใจแตกสลาย
เรารอต้อนรับเจ้า..โดยเฉพาะในวันที่เจ้าเดียวดาย
แต่เจ้ากลับไม่เว้นวาย...ร้องร่ำไห้หาใครต่อใครหลายคน
เราอยู่ตรงนี้ ที่ตรงข้างกายเจ้า
เราคอยเฝ้า คอยเอาใจใส่ ไม่ให้เจ้าสับสน
โปรดเถิดลูกรัก...เราคือที่พิงพักยามเจ้าทุกข์ทน
ยามเจ้าหนาวเหน็บกลางสายฝน...เราคืออีกคนที่แสนทุกข์ใจ”
.......................................
“พระองค์อยู่ที่ใด ใยดวงใจลูกมองไม่เห็น
สายฝนสาดกระเซ็น โคลนกระเด็นเข้าตาร่ำไห้
ตะเกียกตะกายตามหาพระองค์ด้วยที่สุดของดวงใจ
แต่ลูกกลับร้างไร้ พระองค์อยู่หนใด ใยลูกไม่พบเจอ”
...............................................
พระองค์ตรัสว่า “ลูกรัก...เราอยู่ ณ ตรงที่แห่งนี้
แต่ดวงใจลูกนะสิ ปิดลงกลอนด้วยความพลั้งเผลอ
ดวงใจลูกจึงมืดมิด ปิดสนิทไม่ได้พบเจอ
เสียงใดใดไม่อาจเสนอ ไม่อาจสนองให้ได้ยลยิน
เปิดดวงใจลูกเถิด จงเปิดดวงใจ
เราจะเข้าไป เปิดดวงใจถวายให้สิ้น
อ้อมแขนเราจะโอบกอด ความรักของเราจะแต้มชีวิน
ธารพระพรจะรดริน ไม่สูญสิ้นไปจากใจเจ้าเลย”
............................................... |