“จงให้อภัยเขาและพระเจ้าจะทรงให้อภัยท่าน”

(ลูกา6:37)

...............................................................

กิจกรรมหนึ่งบอกให้เราเขียนชื่อของบุคคลที่เราเกลียดที่สุดลงไปในกระดาษ

และให้เขียนข้อดีของคนที่เราเกลียดที่สุดต่อลงไปด้วย

เสียงคัดค้านแสดงถึงความยากลำบากในสิ่งที่ต้องเขียนดังขึ้น

ใครเล่าจะไปคิดถึงข้อดีของบุคคลที่ตนเองเกลียดได้

แต่สุดท้ายก็ได้แต่ปลอบใจตนเองว่านี่ก็แค่การเขียนลงกระดาษเฉยๆ

เมื่อถึงเวลาที่ต้องเขียน ต้องร่วมกิจกรรมด้วยความจำใจจริงๆ

บางคน  เมื่อพูดถึงความเกลียดมันก็ช่างยากเย็น

เพราะลำพังตัวเราเองก็ไม่ใช่คนดีมีค่ามากมาย

พอที่จะวัดตวงความผิดคนอื่นได้เหมือนกัน

หากจะมีก็เพียงแค่เสียใจกับสิ่งที่เขาทำกับเรา

แล้วก็เลยผ่านไปไม่รู้จักจดจักจำ เหมือนคนไม่รู้สึกรู้สาอะไร

ฉันขอบพระคุณพระที่มอบความอ่อนแอเป็นของขวัญติดตัวฉันมา

อย่างน้อย ความอ่อนแอก็ทำให้ฉันอภัยผู้อื่นง่ายขึ้น

มองความผิดบกพร่องของตนเองเพื่อให้อภัยความบกพร่องของผู้อื่น

...................................................................

ตอกตรึงความเกลียดไว้ที่ใจ

ร่องรอยความอาลัยฝังใจนี้

จะชะล้างลบเลือนนั้นไม่มี

ทับถมนานทีจนอ่อนใจ

อภัยเถิดเปิดใจอภัยกัน

ล้างเลือนเรื่องบาดหมางต่อกันไว้

ต่างผิดบกพร่องต่างหมองใจ

พระสอนให้อภัยด้วยใจจริง

หากเราอภัยให้เขาก่อน

พระพรพระคุ้มครองในทุกสิ่ง

หากผิดพลาดพลั้งไม่ประวิง

พระไม่นิ่งนอนใจอภัยเรา

.......................................................