“ลูกทั้งหลายเอ๋ยอย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น
แต่จงรักกัน ด้วยการกระทำและด้วยความจริง.. ”
(1 ยน. 3:18)
....................................................
เด็กผู้ชายตัวน้อยวัย 7 ขวบคนหนึ่ง
ซุกตัวอยู่ที่มุมของอาคารเรียนข้างห้องน้ำ
ฉันสังเกตเห็นว่ากางเกงของเจ้าตัวเล็กเปียกปอนยาวลงไปถึงรองเท้า
พ่อหนุ่มส่งสายตาแสดงความกังวล ขาดความมั่นใจอย่างหนักมาถึงฉัน
ฉันเดินเข้าไปพลางถามว่าเกิดอะไรขึ้น มีอะไรให้ช่วยหรือไม่
หนุ่มน้อยกระซิบเบาๆกับฉันว่า
“ผมใช้ห้องน้ำที่เป็นขันตักไม่เป็นครับ
ผมใช้เป็นแต่ที่มีสายฉีดครับ”
ฉันนึกสภาพที่เกิดขึ้นในห้องน้ำเมื่อสักครู่ของหนุ่มน้อยออกทันที
ฉันพาหนุ่มน้อยไปเปลี่ยนกางเกงตัวใหม่
ในระหว่างนั้นฉันก็ค่อยๆสอนวิธีการใช้ขันน้ำ
แต่ประสบการณ์ชีวิตใดใดหากเรียนรู้แค่เพียงภาคทฤษฎี
ก็ยังไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่แท้จริงได้
การได้ลงมือปฏิบัติ ผ่านการลองผิดลองถูก
จากสิ่งที่ได้เรียนรู้มา ผ่านการผิดพลาด ล้มเหลว
ย่อมเป็นประสบการณ์ตรงที่คงอยู่อย่างแท้จริง
...................................................................
จะผิดไหม....ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างต้นจะสอนชีวิตฝ่ายจิตของฉันด้วย
หากเพียงแค่ฉันอ่านพระคัมภีร์ อ่านพระวาจาของพระ
ด้วยความซื่อสัตย์อยู่สม่ำเสมอ
แต่ไม่เคยที่จะปฏิบัติตามถ้อยพระวาจาที่พระทรงสอนนั้นเลย
เหมือนรู้ทฤษฎีครบถ้วนแต่ขาดการปฏิบัติ
ฉันเฝ้าเตือนตนเองว่า...แล้วจะเกิดผลอะไรเล่า
สุดท้าย...กิจการชีวิตฝ่ายจิตของฉันก็ยังคงลุ่มๆดอนๆไม่มั่นคง
.....................................................................
พระวาจาตักเตือนฉันว่า
“จงรักกันด้วยการกระทำไม่ใช่แค่คำพูด”
หากไม่ลงมือกระทำ กิจการใดเล่าจะสำเร็จไปได้
.................................................................. |