นายชุมพาเจ้าขา ลูกอ่อนล้าและหวั่นไหว
พยายามสุดหัวใจ เพื่อเข้าใกล้องค์ทรงธรรม์
แต่หนทางแสนทุกข์ท้อ มีบาปรอจะห้ำหั่น
สุนัขป่าพร้อมโรมรัน เข้าฝ่าฟันหวังแย่งชิง
นายชุมพาเจ้าขา โปรดเมตตาอย่าทอดทิ้ง
ขออ้อมหัตถ์ให้พักพิง แล้วทุกสิ่งจะผ่านไป
...........................................................
โอกาสรับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ไม่ได้มีกันบ่อยนัก
ทั้งนี้ต้องมุ่งมั่นที่จะรับพระคุณนี้อย่างแท้จริง
ในขณะที่ฉันตัดสินใจจะรับพระคุณนี้
ฉันตั้งใจพิจารณาบาปผิดบกพร่องของตนเองอย่างจริงจัง
ก่อนที่จะไปร่วมต่อขบวนรอรับศีลอภัยบาป
อาจจะด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ
พระเมตตาจึงไหลหลั่งมาไม่ขาดสายตั้งแต่เริ่มเดินไปต่อขบวนรอคิว
ฉันมองนายชุมพา(ผู้เลี้ยงที่แสนดี) รอลูกแกะกลับคืนสู่คอกของตน
นายชุมพาพยายามที่จะต้อนลูกแกะทุกตัวด้วยความรัก
ฉันบอกกับท่านในใจว่า “ลูกแกะก็พยายามอยู่นะคะ”
โปรดปกป้องลูกแกะให้เดินในทางที่ถูกต้องด้วย
ฉันน้ำตาซึมออกจากที่รับศีลอภัยบาป
ทุกถ้อยคำพูด ทุกกิจใช้โทษบาป เป็นกิจการแห่งรักทั้งสิ้น
ไม่ยากที่จะทำ และไม่ง่ายที่จะทำด้วยความตั้งใจ เต็มใจ นบนอบ
ฉันรับศีลด้วยความรู้สึกปลอดโปร่งใจ เบาใจ สุขใจ
ฉันจะพยายามใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังให้มากยิ่งขึ้น
ต่อคนรอบข้าง ต่อกิจการที่กระทำ และต่อตัวเอง
เพื่อถวายเกียรติแด่พระผู้ทรงเมตตาฉันอยู่เสมอ
....................................................
น้องที่น่ารักคนหนึ่งถามฉันว่า ทำไมพี่ต้องคิดว่าตัวเองมีบาปอยู่ตลอดเวลา
ถ้าพี่บาปแล้วหนูจะเหลืออะไร
พ่อเคยสอนว่า หน้าที่ตัดสินว่าบาปหรือไม่
เป็นหน้าที่ของพระเป็นเจ้าไม่ใช่หน้าที่ของมนุษย์
ฉันบอกกับน้องว่า ความรู้สึกว่าตนเองบาปผิดบกพร่องมากน้อยแค่ไหน
มันอยู่ที่ใจของตัวเราเองแต่ละคน
เราต้องรู้ตัวเราเองดี
พี่ก็รู้ตัวพี่เองดีว่าพี่เป็นคนบาป มีความบกพร่อง
ซึ่งพี่ไม่ได้เป็นทุกข์กับมัน เพียงแต่เราพยายามที่จะทำให้ดีขึ้นเสมอ
ฉันยังคงเป็นคนบาปที่ร่าเริงเสมอ
.....................................................................
เพลงบทหนึ่งร้องขับขานว่า
“คนบาปอย่างฉัน กลับได้รับความรักและเมตตา
และพร้อมเข้ามาเป็นพระคุณซ้อนพระคุณ”
และพระเยซูเจ้าก็ลงมาบังเกิดเพื่อคนบาปมิใช่หรือ?
............................................... |