“จงชื่นชมในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลาเถิด”

(1ฟป 4:4)

...................................................................

ในวันที่สดใส            น้ำพระทัยพระเมตตา

ไหลหลั่งดั่งธารา      สุขหนักหนาพาชื่นบาน

ในวันทุกข์ลำเค็ญ     พระทรงเป็นเช่นสายธาร

กล่อมใจให้ไหวหวาน         ทุกข์ระรานผ่านพ้นไป

ในวันหมดหนทาง               พระทรงวางข้าฯไว้ใน

อ้อมหัตถ์อันยิ่งใหญ่                        โอบข้าฯไว้ด้วยใยดี

ในทุกวันของชีวิต    จะหมั่นคิดถึงพระนี้

ให้ทุกกิจการมี          เจ้าชีวีมาครอบครอง

.................................

ในวันที่ฉันพบกับความสุขสมหวัง ในวันที่มีคนเข้าใจอยู่รอบข้าง

ฉันขอบพระคุณในพระเมตตา  ที่ทรงให้รางวัลชีวิตที่สวยงามกับฉัน

ในวันที่ฉันพบปัญหา   และเหมือนว่าผู้คนรอบข้างจะทอดทิ้งฉันไป

ฉันขอบพระคุณในพระหรรษทาน ที่ทรงให้บทเรียนที่มีค่ากับฉัน

ในวันที่ฉันเงียบเหงา  และต้องการอ้อมกอดใครสักคนที่เข้าใจฉัน

ฉันขอบพระคุณในพระพรแห่งความรัก

ที่ทรงสอนให้ฉันรู้จักที่จะรักคนอื่นด้วยใจ

เหมือนที่ฉันเองก็ต้องการความรักจากใจเช่นกัน

ในวันที่ฉันขุ่นข้องหมองใจกับคำพูดของใครบางคน

ฉันขอบพระคุณในพระพรแห่งความอดทน

ที่ทรงให้ฉันยอมรับในความอยุติธรรมบนโลกใบนี้ด้วยความยินดี

เหมือนที่พระองค์เคยได้รับด้วยใจยินดีเช่นกัน

ในวันที่ฉันรู้สึกว่าตนเองมีความผิดบกพร่องมากมายจนเกินอภัย

ฉันขอบพระคุณในบทเรียนแห่งความนบนอบ

ที่ทรงสอนให้ฉันรู้จักที่จะถ่อมตนเองให้มากยิ่งขึ้น

และพึงระลึกว่า อย่าตัดสินคนอื่นเพราะฉันเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่นเลย

ในทุกกิจการของชีวิต ในทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้น

ฉันขอขอบพระคุณพระองค์

เพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของฉัน

คือสิ่งที่ดีที่สุดที่พระองค์ทรงเลือกและมอบให้เหมาะสมกับฉันแล้ว

...........................................................