ในวันที่หัวใจอ่อนแรงและเหนื่อยล้าจากภาระหน้าที่ทั้งหลาย
ฉันเดินเรื่อยเปื่อยไปตามถนนในโรงเรียนจุดมุ่งหมายคือร้านขนม
เพื่อหาน้ำดื่มให้ชื่นใจสบายจิตสักขวดหนึ่ง
ปรากฏว่าไม่มีน้ำที่ต้องการที่ร้านขนมเลย
ฉันเดินย้อนกลับมา มีนักเรียนทักทายระหว่างทาง
ฉันส่งรอยยิ้มให้ ด้วยหัวใจที่เหน็ดเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก
ขณะนั้น มีนักเรียนชายตัวน้อยชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
เดินข้ามาเรียกชื่อของฉัน
พูดเสียงเบาๆ จนฉันต้องโน้มตัวลงไปเพื่อฟังเสียงน้อยๆนั้น
“ครูน้ำผึ้งครับ ฟังนะครับ
ความรักของพระเจ้าเป็นรักที่อบอุ่น
ความรักของพระเจ้าเป็นรักที่อบอุ่น”
หนุ่มน้อยร้องประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ มีท่อนนี้ท่อนเดียวจริงๆ
ไม่ต่อยาวไปกว่านี้อีก
และหนุ่มน้อยก็จบลงด้วยถ้อยคำชัดๆว่า “เป็นรักที่อบอุ่น”
ฉันจับแก้มสองข้างของหนุ่มน้อยและกล่าวชมว่าลูกร้องได้เพราะมาก
ฉันดีใจ ปลื้ม ตื้นตันใจจนน้ำตาเอ่อออกมาเต็มสองตา
หนุ่มน้อยคนนี้เป็นเด็กพุทธที่เรียนวิชาคริสตศาสนากับฉัน
ในวันที่ฉันอ่อนแรง พระเป็นเจ้าได้ส่งเสียงหวานๆ นุ่มนวลมาปลอบโยนฉัน
เป็นอัศจรรย์ที่แสนวิเศษในวันนี้ของฉัน
ทำไมจู่ๆ เด็กน้อยคนนี้ถึงมาร้องเพลงนี้ในฉันฟังท่ามกลางผู้คนที่กำลังจอแจซื้อขนม
และทำไมเด็กน้อยคนนี้ถึงร้องเพลงนี้เพียงแค่ประโยคเดียวเท่านั้น
และร้องด้วยน้ำเสียงที่เน้นคำชัดเจนจนฉันได้ยินเข้าไปถึงในทุกห้องของหัวใจ
พระองค์ทรงรับรู้อยู่เสมอว่าฉันกำลังขาดแคลนพลัง
พระองค์จะไม่ทรงทอดทิ้งให้ฉันเดินบนความทุกข์ยาก
ความอ่อนแอของชีวิตแต่เพียงลำพัง
...................................................
“ลูกกราบขอบพระคุณ
พระเจ้าการุณ พระคุณพ้นพรรณนา
พระประทานความรักเมตตา
ทรงโอบอุ้มนำพา เติมพลังวิญญาณ์ไม่เสื่อมคลาย
ลูกพร้อมยอมมอบถวาย
ทั้งวิญญาณร่างกาย ขอถวายเป็นเครื่องบูชา
แม้วิญญาณลูกหยาบบาปหนา
เพียงพระองค์ทรงเยียวยา รับรักษาลูกจักเป็นคนดี”
...................................................... |