เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พี่สาวของฉันที่เป็นซิสเตอร์ เธอได้กลับมาเยี่ยมบ้าน

ตั้งแต่เล็กแต่น้อยที่เราเจริญเติบโตมาพร้อมกัน

เธอเป็นเสมือนเกราะคุ้มภัยของฉันจวบจนกระทั่งเมื่อเธอเข้าอาราม

เธออายุห่างจากฉัน 1 ปี ถ้วนๆ

เราเกิดเดือนเดียวกันแล่คนละปี

โอกาสที่เธอได้รับอนุญาตให้กลับมาเยี่ยมบ้าน

ฉันจึงได้ใช้ชีวิตพี่น้องร่วมกันเธออีกครั้งหนึ่ง

เราไปเดินเล่น เที่ยว ช้อปปิ้งร่วมกัน

วันหนึ่ง ในขณะที่เราเดินช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า

ฉันบอกกับพี่สาวว่า ฉันต้องการตู้ ATM เพื่อกดเงิน

ถึงที่หมาย ฉันเห็นคิวรออยู่ 1 คิวและคนที่กำลังกดอยู่ 1 คน

ฉันและพี่สาวยืนรอห่างๆ เพื่อไม่ให้เสียมารยาท

ขณะถึงคิวคนต่อไป ซึ่งเธอเป็นผู้หญิง ท่าทางลุกลี้ลุกรน

เธอหันกลับมาหาฉัน แทนที่จะเดินเข้าไปหาตู้ ATM ขณะที่พี่สาวของฉันไวกว่า

พี่สาวของฉันกระตุกแขนฉันให้ถอยออกมาในระยะที่เหมาะสม

หญิงสาวคนนั้น เธอบอกกับฉันว่า

เธอไม่สามารถกดเงินออกมาได้ ให้ฉันช่วยกดให้หน่อย

พี่สาวของฉันสะกิดฉันเหมือนเตือนให้ระวัง

ฉันรับบัตรของผู้หญิงคนนั้นมาด้วยดวงใจที่ไม่ครบ 100 นัก

ด้วยความรู้สึกหวาดระแวง ไม่ไว้วางใจ แต่ฉันก็ดำเนินการให้

ฉันบอกให้เธอใส่รหัสผ่านเอง ฉันแปลกใจที่เธอไม่ปกปิดรหัสเลย

ฉันกลับต้องเอามือบังตาตัวเองไว้แทน

เครื่องแจ้งว่าไม่สามารถทำรายการได้ ให้ติดต่อธนาคารเจ้าของบัตร

ฉันแจ้งเธอว่าเธอต้องไปที่ธนาคารเพื่อให้เขาตรวจสอบให้

เธอขอบคุณฉัน ก่อนเดินจากไป

ฉันยืนงงๆ เล็กน้อย  ก่อนเดินไปสอดบัตรของตัวเองเพื่อทำรายการบ้าง

แต่ก่อนที่ฉันจะกดรหัสของตนเอง

พลันความรู้สึกขาดความไว้ใจก็ทวีมากขึ้น

ฉันกด cancle และเอาบัตรออกมา

และตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้บริการตู้ ATM เครื่องอื่นแทน

คำถามมากมายผุดขึ้นมาในใจฉัน

ทำไมเธอถึงไม่ปกปิดรหัสผ่านของบัตรเธอเลยแม้แต่น้อย

ทำไมเธอถึงขอให้ฉันทำรายการให้ในเมื่อเธอทำไม่สำเร็จ

และจู่ๆ เธอก็ไม่ได้เดือดร้อนที่จะทำต่อเมื่อฉันบอกว่าทำไม่ได้

เธอกลับเดินจากไปโดยไม่มีท่าทีเดือดร้อนอะไรเลย

ถ้าจะคิดในทางที่ดี

เธออาจจะซื่อ คิดดีกว่าฉัน  ไม่คิดหวาดระแวงคนอื่นเหมือนฉัน

แต่ถึงกระนั้น ฉันก็ยังขอบคุณพระที่ให้ฉันรู้จักที่จะเอื้อมมือเข้าไปช่วย

แม้ว่าบุคคลนั้นจะเป็นภัยกับเราก็ตาม

แต่ในการช่วยเหลือพระก็จะปกป้องและส่งสัญญาณแห่งความรักมาเตือนเราด้วย

ให้เราปลอดภัยจากสิ่งเลวร้ายทั้งปวง

........................................

เหตุการณ์นี้ทำให้ฉันคิดถึงเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดี

ชาวสะมาเรียคนนั้นช่างมีน้ำใจงดงามเสียจริง

เขาไม่ระแวงว่าโจรจะกลับมาทำร้ายเขา

เขาไม่ระแวงที่ใครต่อใครจะมองเขาด้วยสายตารังเกียจ

เขาใช้พระพรแห่งความรักเพื่อผู้อื่น

มันไม่ง่ายเลยที่จะกระทำเช่นนั้นในสังคมทุกวันนี้

แต่ด้วยพระพรแห่งความรักที่พระองค์ทรงเติมเต็มให้เราทุกวัน

เราจะไม่ขาดแคลนความรักและยังมีพอที่จะแจกจ่ายเพื่อคนอื่นด้วย

ขอบพระคุณประสบการณ์เบาๆที่พระองค์ทรงสอนสั่ง

ผ่านหญิงคนหนึ่งที่ไม่คุ้นเคย

พระองค์กำลังสอนฉันเรื่องความไว้วางใจ  ความหวังใจ และการแบ่งปันความรัก

........................................  

“ดวงใจดวงน้อย                   เรียงร้อยเพลงรักมาถวาย

ประสบการณ์ชีวิตมากมาย             กลับกลายเป็นคุณค่าแห่งใจ

ขอบพระคุณพระเมตตา      ที่เยียวยาชีวิตให้สดใส

สองมือน้อยนี้มอบพลีไว้    ทำงานรับใช้เพื่อพระองค์”

...............................