การย้อนชีวิตตัวเองกลับมาเป็นผู้เรียนอีกครั้งหนึ่ง

ทำให้ฉันได้เปลี่ยนบทบาทตัวเอง

สวมบทบาทของนักเรียนทั้งร่างกายและจิตใจ

ความกระวนกระวายใจเมื่อจะมีการประเมิน

เป็นสิ่งที่ทำให้สภาพหัวใจถูกปลุกเร้าให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

ยิ่งคาดหวังมากก็ยิ่งกังวลมาก

ช่วงนี้ไม่มีกระจิตกระใจจะคิดถึงอะไร

เวลาว่างมีไว้เพื่อพักผ่อนหย่อนสมองจริงๆ

แต่บางครั้งเวลาว่างก็อาจจะต้องแบ่งปันไปให้กับการช่วยเหลือเพื่อนด้วย

สภาวะทางความรู้ ความจำและความสามารถของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

แต่สิ่งที่ทุกคนอยากได้คือความสำเร็จที่สวยงาม

ดังนั้น...การได้มาเป็นนักเรียนอีกครั้ง

นอกจากจะต้องใส่ใจกับความรู้แล้ว เรายังต้องใส่ใจเพื่อนๆด้วย

การเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน  บอกกล่าวกัน แนะนำกัน

เป็นสิ่งที่สมควรทำที่สุดในเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้

วันนี้...ในห้องเรียน ขณะที่คุณพ่อกำลังให้ความรู้อยู่นั้น

น้องคนหนึ่งเธอถามคำถามที่เธอฟังไม่เข้าใจกับฉัน

ในขณะที่ฉันเองก็กำลังจะตั้งใจฟังและจดให้ทันเพราะกลัวลืม

ทำให้สิ่งที่ฉันกำลังตั้งใจฟังหายไปบางช่วง

ความรู้สึกแว๊บแรกคือหงุดหงิด แต่ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกไป

เพียงแต่เอื้อมมือไปจับแขนน้องและบอกว่าแป๊ปนะ ขอฟังเดี๋ยวจ่ะ

ในคาบเรียนนั้น เธอหันมาถามฉันหลายคำถาม

เพราะเธอไม่กล้าถามคุณพ่อ

ฉันไม่ถือโทษโกรธเคืองอะไรเพราะฉันเองก็เคยสึกแบบนั้นมาก่อน

เพียงแต่ความรู้สึกในแว๊บแรกที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นความรู้สึกทางลบของมนุษย์

ที่เกิดขึ้นรวดเร็ว

ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกไม่พอใจตัวเองขึ้นมาทันที

เรียนแล้วไม่เข้าไปในจิตใจเลยหรือไงนะ...ฉันเอ็ดตัวเอง

หลังจากนั้น ฉันจึงชดเชยบาปด้วยการหันไปอธิบายสิ่งต่างๆที่เรียนรู้ให้น้องฟัง

.............................................

ปฏิกิริยาสะท้อนกลับทางอารมณ์ของคนเรานั้น

ถ้าไม่ได้รับการควบคุมมันอาจจะทำร้ายตัวเราเองและคนรอบข้างได้

ฉันยังขอบพระคุณพระเจ้าที่โปรดเมตตา

ให้ฉันไม่ทำร้ายจิตใจน้องคนนั้นไปเสียก่อน

ขอบพระคุณพระองค์ที่ปลุกสติ และเตือนจิตใจให้ฉัน

หันมาใส่ใจคนรอบข้างให้มากยิ่งขึ้น

...........................................

ช่วงนี้...เรียนหนัก เพราะเร่งเรียนกันเต็มที่

เหมือนกำลังโดนป้อนยาเร่งโต

เราก็ยินยอมให้เร่งด้วยความเต็มใจเพราะเวลาที่จำกัดจริงๆ

ดังนั้น สมองช่วงนี้ถูกใช้ไปกับการคิด จดจำ  วิเคราะห์

หากจะมีผู้เมตตาส่งคำภาวนามาให้น้ำผึ้งหวาน

ได้ร่ำเรียนด้วยสมองที่เปิดรับเต็มที่

น้ำผึ้งหวานก็จะได้นำความรู้ที่เรียนมา

ไปหว่านลงในแปลงนาอันอุดมสมบูรณ์ของพระเจ้าต่อไป

....................................................

ปล.หลายวันมานี้ ฉันได้มีโอกาสทำการบ้าน+ ข้อสอบ ให้กับพี่ร่วมรุ่นที่บกพร่องทางการได้ยิน

เธอเป็นคนที่ได้รับพระพรพิเศษมากทีเดียว เพราะเธอสามารถเขียนภาษาไทยได้ อ่านได้

แม้จะไม่คล่องและเขียนคำสลับกันบ้าง  เราส่งภาษามือกัน เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง

สรุปลงที่ฉันเลยต้องสวมวิญญาณของเธอ เพื่อนำเสนอเรื่องราวของเธอ

เขียนลงในกระดาษข้อสอบ กระดาษคำตอบ เพื่อส่งคุณพ่อเจ้าของวิชาต่างๆ

นี่เป็นประสบการณ์ที่ดี  มิตรภาพไม่ได้จำกัดขอบเขตของเราจริงๆ

ขอคำภาวนาให้กับความเพียรทนของเธอด้วยค่ะ

.......................................................