วันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องร่วมงานคนหนึ่ง

บางคราวฉันแอบอ่านบทสนทนาของเธอกับเพื่อนๆเธอในเฟสบุ๊ค

มันเป็นภาพมุมหนึ่งที่ฉันไม่เคยเป็นและไม่เคยสัมผัส

ฉันสารภาพกับเธอว่า ฉันเข้าไปอ่านบทสนทนาของเธอ

มันให้ความรู้สึกถึงความแตกต่าง เหมือนฉันถูกปลดปล่อยออกจากโลกที่ฉันเคยเป็นอยู่

โลกของฉันเป็นโลกของความเรียบร้อย เป็นผู้หญิงๆ ที่ออกจะดูชืดชา ไร้สีสันต์

แต่โลกของเธอ...มันเจิดจรัสไปด้วยสีสันต์มากมาย

ถ้อยคำแรงๆ หลายถ้อยคำ เป็นเหมือนพายุที่พัดเอาความเงียบกระจายไปจากใจฉัน

เธอบอกฉันว่า  เราต่างกันโดยสิ้นเชิง

ทั้งบุคลิก ลักษณะ และอุปนิสัย ร่วมไปถึงสภาพแวดล้อมด้วย

ฉันแอบคิดเอาเองว่า...ที่จริงเราทุกคนก็แอบมีความดื้อสุดขั้วอยู่ในใจเหมือนกัน

เพียงแต่เราเก็บมันเอาไว้ เพื่อรักษาภาพพจน์ของตนเองทั้งสิ้น

ฉันถามเธอว่า...ถ้าวันหนึ่งฉันใช้ถ้อยคำแรงๆแบบนั้นบ้าง

มีความมั่นใจสุดกู่แบบเธอบ้าง

คนรอบข้างจะรับฉันได้ไหม...เพราะมันไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่ฉันเคยเป็นมา

แม้แต่ถ้อยคำบางคำที่มันแสดงออกถึงความสะใจ

ฉันยังไม่กล้าจะใช้เพียงเพื่อระบายความในใจยามคับแค้นใจเลย

เธอบอกฉันว่า ถ้ารู้ว่าฉันอ่านเธอจะใช้ถ้อยคำให้เบาลงอีกนิด

ฉันขอร้องเธอว่าไม่ต้องเปลี่ยนถ้อยคำใดใดทั้งสิ้น

เพราะนั้นก็เป็นสิ่งที่เติมเต็มโลกอีกส่วนหนึ่งที่ฉันไม่เคยรู้จัก

เป็นโลกอีกใบหนึ่งที่ฉันไม่เคยสัมผัส

และเธอก็เหมือนเป็นตัวแทนจากโลกใบนั้น

มาทำการปลดปล่อยใจของฉันให้รู้จักคำว่า อิสรเสรีภาพส่วนตัว

เธอเติมสิ่งที่ฉันขาดและฉันก็เติมสิ่งที่เธอไม่มี

เราต่างเติมเต็มกันและกัน

แม้จะเป็นการเติมเต็มเพียงความรู้สึกก็ตาม

........................................

โลกของฉันและโลกของเธอ

อาจจะแตกต่างกันในสิ่งที่พบเจอ ในสิ่งที่ผ่านผัน

อาจแตกต่างบนเส้นทางคนละเส้นทางกัน

แต่ความแตกต่างนั้น คอยเติมเต็มกันและกันจริงๆ

ฉันไม่เหมือนเธอ  เธอก็ไม่เหมือนฉัน

เราไม่เหมือนกันในหลายๆสิ่ง

แต่จุดหมายเราคือจุดหมายเดียว คือหนทางความเป็นจริง

เพียงความต่างไม่เคยทอดทิ้งเราให้ห่างไกลกัน

ขอบใจในการเติมเต็มตรงความต่าง

บนเส้นทางจึงสดใสสุขสันต์

ขอบคุณที่เราเกิดมาแตกต่างกัน

และเธอก็เติมเต็มฉันให้สมบูรณ์

...................................