สองวันที่แล้ว
ฉันได้ไปร่วมสวดให้กับพี่ท่านหนึ่ง
เธอเคยเป็นเพื่อนครูอยู่ที่เดียวกับฉัน
จวบจนเธอป่วยเป็นโรคมะเร็ง จึงลาออกไปพักรักษาตัว
เวลาเกือบสองปีที่ฉันไม่ได้รับข่าวคราวเธอเลย
จนข่าวว่าเธอจากไปแล้ว
เธอกินมังสวิรัต ไม่แตะต้องเนื้อใดใด
ซึ่งใครๆก็มองว่าเธอไม่น่าจะเป็นมะเร็งได้
ความตายไม่เข้าใครออกใคร
ไม่มีใครเป็นเจ้าเหนือชีวิตของเรา แม้แต่ตัวเราเอง
มีเพียงพระเท่านั้นที่เป็นเจ้าของชีวิตของเราแต่เพียงผู้เดียว
...................................................
ในวันที่ฉัน และคณะครูไปสวดให้พี่ท่านนี้
ฉันมองดู Portfolio หลายเล่มของพี่
ตั้งแต่เธอรับปริญญาในวัยสาว
จนกระทั่งวัยทำงาน ที่ผ่านการดิ้นรนต่อสู้เหมือนเช่นบุคคลทั่วไป
และสิ้นสุดลงด้วยการลาจากโลกนี้ไป
ที่อยู่อาศัยเพียงชั่วคราวใบนี้
...........
เมื่อหลายปีก่อน ฉันได้มีโอกาสเข้าไปในสันติอโศก
บริเวณภายในร่มรื่น สวยงาม
ฉันสะดุดใจอยู่ที่มุมหนึ่ง ซึ่งตั้งโลงแก้วเล็กๆเอาไว้
ในโลงแก้วมีศพแห้งๆ บรรจุอยู่
โลงแก้วนี้ถูกตั้งไว้ในที่แจ้ง
ข้างโลงแก้วเขียนว่า นี่คือศพนางงาม
เมื่อครั้งที่เธอมีชีวิตอยู่ เธอคือนางงาม
แต่เมื่อเธอหมดลมไปแล้ว ร่างกายที่เคยงดงาม
ก็ไม่ได้น่ามองเหมือนครั้งมีชีวิตอยู่เลย
ฉันยืนมอง และรู้สึกว่าภาพเบื้องหน้านี้มีผลต่อการใช้ชีวิตของฉันดีมาก
สิ่งที่ได้เห็นไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว แต่เป็นแบบเรียนล้ำค่า
สอนให้ฉันรู้จักปลงและพอเพียง
สอนให้ฉันรู้ว่า ไม่มีอะไรบนโลกนี้เที่ยงแท้ที่สุด
มั่นคงและยั่งยืนที่สุด .... ไม่มีเลย
มีเพียงโลกหน้าเท่านั้น ที่เป็นบ้านแท้ถาวรของเรา
โลกใบนี้เป็นเพียงบ้านชั่วคราว
ที่ที่เราอาศัยอยู่เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเราควรค่าแก่บ้านอันเป็นนิรันดร์แค่ไหน
..........................................
พิสูจน์ด้วยพระพรที่แตกต่างของแต่ละคนที่พระประทานให้
พิสูจน์ด้วยพลังรักที่พระบรรจงใส่ในหัวใจทุกดวง
.................................... |