“ผู้ใดไม่รับพระอาณาจักรของพระเจ้าอย่างเด็กเล็กๆ
เขาจะไม่เข้าสู่พระอาณาจักรนั้นเลย”
(มก 10:15)
..........................................................
คำอวยพร
เหนือสิ่งอื่นใด ขอส่งพระพรแห่งความสดชื่นรื่นรมย์
พระพรแห่งความเจริญงอกงามทั้งฝ่ายร่างกายและจิตใจ
มายังเพื่อนพี่น้องทุกท่านในโอกาสขึ้นปีใหม่นี้
พระพรโปรยปรายดุจสายฝน
พระวาจาแห่งความรักฉลองปีใหม่ปีนี้
เป็นพระวาจาแห่งความบริสุทธิ์สดใส
ที่ฉันได้รับจากเด็กน้อยอายุเพียง 6 ขวบ
นักเรียนตัวเล็กๆของฉันในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เธอวิ่งมากอดฉันแล้วยื่นปากกาเคมีสองหัวสีแดงให้ฉัน
บอกกับฉันว่า”คุณครูน้ำผึ้งขา หนูซื้อปากกาแดงมาฝากคุณครูค่ะ
ไว้ให้คุณครูตรวจงานเด็กๆค่ะ”
ฉันยิ้มกว้างใส่เด็กน้อย พูดขอบใจและบอกกับเธอว่า
“ครูจะเอาไว้ตรวจหนูคนแรกเลยละกันนะคะ”
ฉันเดินถือปากกาหัวโตสองหัวสีแดงกลับเข้าห้อง
นั่งพิจารณาเจ้าปากกานั้นด้วยนึกเอ็นดูความไร้เดียงสา บริสุทธิ์
ปากกาเคมีหัวโตสีแดงรึ....กาเครื่องหมายถูกลงไปหนึ่งตัวก็คงเต็มหน้าแล้ว
ฉันแอบหัวเราะอยู่คนเดียวทุกครั้งที่มานั่งโต๊ะทำงานทีไรแล้วเจอเจ้าปากกาเคมีแท่งนี้
มันยังคงนอนนิ่งอยู่ในปลอกพลาสติก
คงต้องหาทางใช้กับเด็กๆ หลังปีใหม่นี้เพื่อให้เจ้าของสุขใจ
อีกครั้งเมื่อเทศกาลคริสต์มาสที่ผ่านมา
ฉันได้รับมอบหมายให้นำพระกุมารไปอวยพรเด็กๆตามห้องเรียน
ฉันสมัครรับเดินตามห้องนักเรียนประถม 1 -2
ฉันแปลงร่างเป็นซานต้าสาวแบกถุงของขวัญและกล่องทำบุญ
ขึ้นไปเยี่ยมเยียนเด็กน้อยตามห้องต่างๆ
ทุกครั้งที่มือดึงประตูเปิดออก
เสียงเด็กน้อยกรี้ดกร้าดประหนึ่งพบตัวละครในเทพนิยายที่ตนชื่นชอบ
เราสนุกสนานด้วยการร้องเพลง ขอพร แบ่งปันเงินทำบุญเพื่อผู้ยากไร้
เด็กๆ ดูมีชีวิตชีวา หน้าตาสดใส เปี่ยมด้วยพลังมากมาย
ฉันได้รับคำขอร้องจากเทพธิดาน้อยคนหนึ่ง
“คุณครูน้ำผึ้งขา อัดรูปคุณครูน้ำผึ้งเป็นซานต้าให้หนูหน่อยนะคะ”
ฉันตกปากรับคำไปด้วยไม่คิดว่าเจ้าตัวเล็กใส่ใจกับสิ่งที่เอ่ยขอ
จนกระทั่ง วันรุ่งขึ้น ฉันถูกทวงถามถึงรูปฉันในชุดซานต้า
ล่วงเข้าวันที่ 4 ฉันเพิ่งมีเวลาปริ้นซ์มันออกมาจากคอมพิวเตอร์
รูปจิ๋วๆ และฉันก็เดินเอาไปให้เจ้าตัวเล็ก เธอแลยินดีอย่างยิ่ง
เรื่องสุดท้ายของเหล่าเทพยดาตัวเล็กๆ
ในขณะที่ฉันนำพระกุมารและกล่องทำบุญไปเยี่ยมเด็กๆตามห้อง
เด็กๆ ส่วนใหญ่พร้อมใจกันเดินนำเงินที่ตนพอมีมาร่วมแบ่งปันลงกล่อง
แต่ฉันเห็นเด็กน้อยคนหนึ่ง เธอแอบหยอดกระดาษชิ้นเล็กๆลงไป
ฉันไม่ว่าอะไร เพราะมันคงต้องมีความหมายสักอย่างในทุกเหตุการณ์
เมื่อฉันนำกล่องลงมาที่ห้อง
กระดาษแผ่นนั้นก็วางโดดเด่นอยู่เหนือกองเงินทำบุญ
ฉันคลี่กระดาษออก มันเป็นเศษกระดาษที่ถูกฉีกด้วยความรีบร้อน
และมีข้อความสั้นๆ เขียนด้วยดินสอในกระดาษนั้นว่า
“หนูไม่มีอะไรจะให้ แต่หนูจะรักทุกคน”
ฉันยังคงเก็บกระดาษชิ้นนั้นไว้
แปะสก๊อตเทป และติดไว้เหนือโต๊ะทำงานของฉัน
เพื่อว่า เมื่อฉันมองเห็นกระดาษชิ้นนี้
ฉันจะได้สำนึกว่า ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่กว่าการที่เราจะมอบความรักให้แก่กัน
ด้วยใจที่บริสุทธิ์เหมือนเด็กน้อยคนนี้
เงินทองก็ไม่ได้สำคัญไปกว่าความรักอีกแล้วในยุคสมัยนี้
นี่คือสิ่งที่โลกกำลังขาดแคลนจริงๆ
.............................................
“ขอบคุณทุกความสดใสของเด็กน้อย
ขอบคุณพรที่เรียงร้อยในวันนี้
ขอบคุณทุกสายตาบริสุทธิ์ ที่ยังมี
ขอบคุณใจดีดีของเหล่าเทพธิดา”
...............................
ไม่มีหน้ากากใดใด มีแต่ความจริงใจเท่านั้น
ที่สื่อออกมาแทนความฝัน ในวันที่ฉันกำลังอ่อนแรง
สายตาที่บริสุทธิ์ เป็นแสงเทียนที่จุดให้ใจกล้าแกร่ง
เสียงเล็กๆ คือพลังเสริมแรง ที่คอยปันแบ่งให้ใจเบิกบาน”
............................... |