..อ่อนแอเหลือเกิน

บนหนทางเดินสายนี้

ยอมแพ้ให้กับความอ่อนแอที่มี

อ่อนล้าเต็มทีขอลา

ขอลาไปพักใจ

จะมีไหมใครห่วงใยใจอ่อนล้า

มีเพียงน้ำพระทัยแห่งพระเมตตา

ที่ส่งมาเยียวยาใจอ่อนแรง

น้ำตาร่วงหล่น

ร่วงรดบนใจที่แห้งแล้ง

อิ่มน้ำตาแล้วใช่ไหมใจอ่อนแรง

ลุกขึ้นมากล้าแกร่งให้จงได้

เลี้ยงใจด้วยน้ำตา

ผลแห่งใจจะเติบกล้าใช่ไหม

แท้จริงแล้วไม่มีใครที่ห่วงใย

หรือเอาใจใส่ เช่นพระองค์

ลูกสับสนเหลือเกิน

กับทางเดินอันวุ่นวายลุ่มหลง

โปรดเถิดนำทางลูกสู่พระองค์

ให้ลูกมั่นคงต่อความเป็นจริง

โปรดให้ลูกยอมรับ

ทั้งกับสภาพนี้และทุกๆสิ่ง

ทางที่ลูกเลือกจะผิดถูกขอให้ลูกอย่าประวิง

โปรดให้ลูกยอมรับความจริงทุกสิ่งอัน

นำใจลูกด้วย

โปรดทรงช่วยให้ลูกไม่ไหวหวั่น

ลูกอ่อนแอ ลูกสับสน ลูกตามไม่ทัน

สิ่งที่มาขวางกั้นมันคืออะไร

........................

วันนี้เสียน้ำตาถึงสองครั้ง

ครั้งที่หนึ่งให้กับคนในที่ทำงานบางคนที่เห็นแก่ตัว

แต่ได้ให้อภัยไปแล้ว

ด้วยยอมรับในความแตกต่างอย่างยินดี

แม้จะดูเหมือนคนขี้แพ้ ยอมให้

แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่จะรออยู่เบื้องหลัง

ครั้งที่สองให้กับความสับสนแห่งชีวิต

เมื่อต้องเป็นคนกลางที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

นอกจากยอมรับกับทุกถ้อยคำด้วยน้ำตา

ไม่มีอะไรที่เราเลือกแล้วเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์ที่สุด

ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ล้วนขาด

และต้องการการเติมเต็ม

เมื่อเลือกแล้วก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เลือก

ว่าดีที่สุดสำหรับเรา

.............

ใจเอ๋ย...อย่าหวั่นไหวกับคำพูดใดใดเลย

แม้แต่คนที่แสนรัก

ก็ยังมีหลายอย่างที่แตกต่างกัน

ยอมรับและยินดี

ในสิ่งที่พระมอบให้

แม้มันอาจจะดูต่ำต้อยก็ตาม

..............

ทุกข์ใจ เศร้าใจ

ผสานไปกับร่างกายที่อ่อนแอ

จนสับสนเหมือนอยากจะยอมแพ้  

อยากจะนอนอ่อนแออยู่ตรงนี้

จะลุกไหวไหม

พระถามที่ใจของฉันนี่

ฉันตอบพระองค์ขอเวลาลูกอีกที

ลูกคนนี้จะลุกขึ้นมากอดพระองค์

...........