“หนทางตรงที่ตัดผ่านถิ่นทุรกันดาร

เพื่อลูกแกะของพระองค์จะได้เดินทางสู่เป้าหมาย”

.............................................

คริสตชนทุกคนคือเครื่องหมายอันมีชีวิต

เป็นเครื่องหมายที่จะโน้มนำเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

ได้เดินเข้าสู่หนทางตรงที่ตัดผ่านถิ่นทุรกันดาร

เข้าสู่ประตูสวรรค์พร้อมๆกัน

.....................

วันนี้ฉลองวัดพระมารดานิจจานุเคราะห์

เราได้รับเกียรติจากพระอัครสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์ เกรียงศักดิ์  โกวิทวานิช

มาเป็นประธานในพิธี

วันนี้ได้รับข้อคิดจากบทเทศน์ที่สำคัญตรง “เราคือเครื่องหมายอันมีชีวิต”

บนโลกใบนี้มีเครื่องหมายที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่หลายอย่าง

มีสถานที่สำคัญที่มีความหมายหลายแห่ง

แต่ตัวเรา “คริสตชน” คือเครื่องหมายที่ยิ่งใหญ่

เพราะเป็นเครื่องหมายที่พระได้มอบชีวิตและลมหายใจ

สำคัญยิ่งคือ พระได้บรรจงใส่ความรักลงในหัวใจของเราด้วย

เราสามารถใช้ชีวิตของตัวเราเองเป็นเครื่องหมายที่จะแสดงถึง

พระฉายาลักษณ์ของพระเป็นเจ้า

ด้วยการแสดงความรัก รับใช้ ช่วยเหลือ และใส่ใจกันและกัน

แม้กระทั่งศัตรูของตนเองก็ตาม

...............................

บนโลกใบนี้...นับวันก็เหมือนเราต้องต่อสู้กับเหล่าสิ่งยั่วยุมากยิ่งขึ้น

ความมั่นคง ยึดมั่น อดทน ในการทำดีดูเหมือนจะยากตามขึ้นมาด้วย

หลายครั้งที่ฉันก็แสดงความอ่อนแอออกไปอย่างตั้งใจ

แบบอย่างชีวิต พระฉายาลักษณ์ของพระเป็นเจ้าเหมือนจะลางเลือน

ไปจากชีวิตคริสตชนของฉันในวันที่วุ่นวายสับสน

ในสังคม และสภาพแวดล้อมที่ยุ่งเหยิง

.............................

ชีวิตที่ขาดพระพรจากการภาวนามักอ่อนแอและไร้เรี่ยวแรง

การภาวนา อ่านหนังสือศรัทธา และทำกิจการดีสม่ำเสมอ

จะทำให้หัวใจมีพลังและรื่นเริงยินดี

............................

หนทางตรงที่ตัดผ่านถิ่นทุรกันดาร

เราจะผ่านไปพร้อมกัน

ด้วยความเชื่อ ความหวัง และความรัก

อย่าให้มีใครแม้เพียงสักคนเดียวหลงเดินออกนอกเส้นทางนี้เลย

.......................

เพียงคำภาวนาเพื่อกันและกัน

ทั้งตัวฉันและเธอจะพ้นภัย

หนทางตรงมุ่งสู่พระราชัย

ผ่านถิ่นร้างไร้ก้าวไปด้วยกัน

......................