... “โลกไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดหรอกนะ” ...

จู่ๆ คนชิดใกล้ก็พูดประโยคนี้ขึ้นมาให้คิด

หลายครั้งที่มีหลายคนพยายามจะสอนฉันว่า

โลกไม่ได้มีมุมมองเพียงมุมมองที่สวยงามมุมมองเดียว

ยังมีบางมุมของชีวิตบนโลกใบนี้ที่ฉันยังไม่รู้จักมัน

ไม่เคยได้สัมผัสมัน

ฉันอยู่ในมุมมองที่เป็นสภาพแวดล้อมที่ดี

มีพระพรพระเยียวยายามอ่อนล้า ผิดหวัง

มีคนรอบข้างที่รัก ห่วงใย เอาใจใส่

ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตฉัน ล้วนเป็นบุคคลที่พระเลือกสรรให้แล้ว

.............................

บางที ฉันมานั่งวิเคราะห์ชีวิตตัวเอง

มันเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียของฉัน

ข้อดีคือ ชีวิตฉันจะได้ไม่ต้องเข้าไปพัวพันรู้เห็นมากไปกว่านี้

ซึ่งมันอาจจะทำให้ฉันมีความรู้สึกเลวร้ายต่อตัวเองมากกว่านี้ก็ได้

และฉันก็รู้ตัวเองดีว่า ฉันมีภูมิคุ้มกันชีวิตที่ไม่ดีพอ

ที่จะเข้าไปอยู่ในมุมมองนั้น

ข้อเสีย คือ มันทำให้ฉันแลดูเป็นคนโง่ ไม่ทันคน อ่อนต่อโลก

หลอกง่าย และก็มีแนวโน้มที่จะถูกชักจูงให้หลงทางง่ายๆด้วย

...............................

สุดท้ายฉันก็ยอมที่จะอยู่ในมุมมองของโลกที่สวยงามเท่านั้น

ฉันยังรู้สึกกลัวที่จะก้าวไปเรียนรู้โลกในอีกมุมมองหนึ่ง

............................

เพราะนี่ขนาดฉันวนเวียนอยู่ในแวดวงชีวิตที่งดงาม

ฉันยังพลัดยังหลงหนทางไม่ว่างเว้นเลย

ชีวิตที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาแห่งพระพร

ที่พระคอยดูแล เติมเต็ม รักษา อภัย และเยียวยาฉันไม่ขาดเลย

ทุกคน ทุกชีวิต ทุกกิจการ ทุกปัญหา ทุกความผิดพลาด

ฉันเลือกที่จะรับ และยินดีที่พระมอบให้

เป็นของขวัญที่สร้างภูมิคุ้มกันดีดีให้กับชีวิตฉัน

ถ้าฉันไม่เจอคนๆ นั้น ฉันอาจจะไม่ได้รับบางประสบการณ์แบบนี้

ถ้าฉันไม่พบอุปสรรคนี้ ฉันอาจจะผ่านงานชิ้นต่อไปไม่ได้

ทุกอย่าง ทุกประสบการณ์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตฉันล้วนเป็นสิ่งที่ดี

ที่พระทรงเลือกสรรแล้ว

อยู่ที่ฉันจะเก็บเอาสิ่งเหล่านั้นเป็นภูมิคุ้มกันชีวิตหรือไม่

............................

มุมมองของชีวิตบนโลกกว้าง

อาจจะมีหลายเส้นทางให้ย่างก้าว

มีเพียงความไว้วางใจอยู่ทุกคราว

แต่ละก้าวขอพระองค์ทรงหนุนนำ

............................

...นิทาน..เทพธิดาแห่งดวงดาวของน้ำผึ้งหวานค่ะ...

“เทพธิดาองค์หนึ่ง มีหน้าที่ประดับดวงดาวไว้บนแผ่นฟ้ากว้าง

เธอเฝ้าปฏิบัติหน้าที่ของเธอด้วยความซื่อสัตย์ทุกค่ำคืน

แม้ในคืนเดือนมืด ฝนตก เมฆมาบดบัง

เธอก็ไม่เคยละความพยายามที่จะประดับดวงดาวให้กับผืนฟ้า

เพียงหวังว่า

หากคราใดที่เมฆเคลื่อนคล้อยลอยจากไป

ผู้คนที่กำลังเศร้าระทมทุกข์ด้วยความมืดมนแห่งดวงใจ

จะรับพลังแห่งแสงดาว

ด้วยความหวัง ด้วยความหวังเพียงเท่านั้น

ที่เป็นแรงผลักดันให้เทพธิดาแห่งดวงดาว

มิละจากหน้าที่แม้เพียงสักวันเดียว

.............................................