หากไร้พระองค์ลูกก็ไม่ต่างอะไรกับคนไร้แขนขา

มีแค่เพียงสายตาร้องอ้อนวอนพระองค์ทรงเห็นไหม

กิจการทั้งสิ้นที่ลูกคิด ที่ลูกกระทำลงไป

หากไม่มีพระองค์เคียงใกล้ งานใดใดก็ไม่อาจจะสำเร็จลง

 

ลูกเป็นเพียงมนุษย์ที่แสนอ่อนแอ

มีสายตาที่ขี้แพ้ หากพระองค์ไม่ทรงเหลียวแลลูกคงผิดหลง

ลูกร้องไห้ อ้อนวอนด้วยดวงใจที่ร้องเรียกหาเพียงพระองค์

แม้จิตใจไม่มั่นคง...ก็ขอพระองค์โปรดทรงพระเมตตา

 

หากไร้พระองค์ลูกก็คงทำอะไรไม่ได้

มีดวงใจที่คอยแต่จะยอมแพ้และฟ้องว่าเหนื่อยล้า

พระองค์คือพลัง คือชีวิต คือการเติมเต็ม  คือผู้เยียวยา

โปรดทรงเอื้อมพระหัตถ์มา...ให้ใจลูกหายอ่อนล้า

และเก่งกล้าด้วยพลังของพระองค์

 

...........................

 

ในวันที่เหนื่อยล้าทั้งใจและกาย

จนได้คำดีดีที่พี่ท่านหนึ่งเตือนสติว่า

"วางใจในพระ และมอบทุกกิจการให้พระองค์"

จริงๆ แล้วลำพังตัวลูกเองก็แสนจะอ่อนแอ

หัวใจคอยแต่จะร่ำร้องขอยอมแพ้อยู่วันละหลายๆครั้ง

แม้ว่าวันนี้จะรู้สึกอ่อนล้าระอาใจกับหลายๆเรื่องราว

แต่ด้วยประโยคสวยๆที่ได้รับมา

ลูกจะพร่ำวิงวอนร้องหาพระองค์

โปรดเติมเต็มตัวลูกให้กลับมาสดใสดังเดิมโดยเร็ววัน

ให้ลูกรู้จักที่จะปล่อยวางปัญหาสารพัน

ทำในสิ่งที่ดีที่สุด และยอมรับในผลที่จะเกิดขึ้น

ขอให้การตัดสินใจทำกิจการทุกกิจการในทุกวันของลูก

เป็นกิจการที่ทำเพื่อพระองค์เท่านั้น

ผลงานที่สำเร็จก็เป็นผลงานที่สวยงามของพระองค์

ผลงานที่ผิดพลาดก็เป็นบทเรียนที่พระองค์ชี้สอนลูก

ลูกขอฝากทุกกิจการของลูกไว้ที่พระองค์

ลูกขอฝากตัวลูกไว้ที่พระองค์

กิจการงานทุกอย่างที่ลูกกระทำ

ไม่ใช่ตัวลูกที่กระทำ

แต่เป็นพระองค์ที่กระทำผ่านตัวลูกทั้งสิ้น

ลูกต้องจดจำสิ่งเหล่านี้ไว้เสมอๆ

อย่าให้ลูกหลงทางและทำตามอำเภอใจอีกเลย

...........................