ชุดสวยตัวใหม่สดใสใช่ไหม

สวมใส่ด้วยใจหวังให้สุขสันต์

ทำตัวเลอะเทอะมอมแมมทั้งวัน

เสื้อสวยตัวนั้นหม่นหมองทันที

 

วิญญาณของฉันวันรับศีลล้าง

พระได้จัดวางเส้นทางเส้นนี้

เหมือนหนึ่งเสื้อใหม่พระให้ชีวี

แต่ตัวฉันนี้กลับทำมอมแมม

................................................

เช้าวันนี้...ลูกๆ นักเรียนคำสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3ได้พบพ่อ

ลูกๆ อยู่ในช่วงเตรียมตัวรับศีลอภัยบาปและศีลมหาสนิท

คุณพ่อทบทวนความพร้อมในการเตรียมตัว

รับพระเยซูเจ้าเข้ามาในชีวิตของลูกๆ

ฉันชอบคำคำหนึ่งที่คุณพ่ออบรมให้กับลูกๆ

รอยแปดเปื้อนของวิญญาณ

ตอนล้างบาปเราเหมือนสวมเสื้อตัวใหม่เอี่ยมที่เพิ่งออกมาจากโรงงาน

ช่วงชีวิตที่เราเผชิญอยู่ในหนทางบนโลกกว้างใบนี้

ทำให้เสื้อตัวใหม่ของเรามอมแมมเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปบ้าง

ศีลอภัยบาปจะทำให้วิญญาณที่มอมแมมของเราสะอาดขึ้น

แต่อาจจะไม่ได้สดใสเหมือนเดิม

เหมือนเสื้อที่ยิ่งซักก็ยิ่งหมองลงไปเรื่อยๆ

ฉันอยากจะเรียกรอยหม่นหมองซ้ำซากนี้ว่า

รอยแปดเปื้อนของวิญญาณ

ที่เกิดจากการทำผิดซ้ำซากหลายๆ ครั้ง

หากต้องการให้ผ้าหมองๆ ผืนนั้นกลับมาสดใสให้ได้มากที่สุด

ก็อาจจะต้องลงไฮเตอร์ ... น้ำยากัดกร่อนคราบที่รุนแรง

เนื้อผ้าอาจจะต้องได้รับความเสียหายไปบ้าง

เหมือนวิญญาณที่ต้องได้รับบาดเจ็บ หรือยอมเจ็บเพื่อการกลับใจใหม่

เพื่อการล้างคราบสกปรกที่ฝังแน่นให้ออกไป

บางทีมันอาจจะทรมานจิตใจ  ทำร้ายความรู้สึก

แต่มันก็เป็นหนทางเพื่อจะขจัดคราบร้ายเหล่านั้นให้ออกไปไม่ใช่หรือ

………………………………

ด้วยวิญญาณที่มอมแมมของลูก

แต่เพียงหัวใจที่พันผูกพระองค์ทรงรับรู้ใช่ไหม

ทุกครั้งที่ลูกได้รับความเมตตาและการอภัย

ก็เหมือนลูกได้รับชีวิตใหม่ที่สดใสกว่าเคย

แต่พอวันเวลาหมุนเวียนผ่านไป

ลูกก็กลับเอาแต่ใจใช้ชีวิตอยู่บนความชาเฉย

เกลือกกลั้วคราบไคลแห่งบาปร้ายเหมือนอย่างเคย

ซ้ำร้ายยังละเลย เมินเฉยต่อพระเมตตาของพระองค์

เป็นชีวิตที่อยู่บนความปรวนแปร

ไม่มีความมั่นคงแท้อยู่ในดวงใจที่ลุ่มหลง

แปดเปื้อนตราบาปก็ร้องไห้หาพระองค์

เพียงใจแท้ยังซื่อตรง ร้องหาพระองค์ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

......................................