เรารักผู้ใดก็ตักเตือน และตีสอนผู้นั้น
เหตุฉะนั้น จงมีความกระตือรือร้น และกลับใจเสียใหม่
(วว 3:19)
ดูสิ! พระองค์บอกฉันวันนี้ว่า...
ถ้าพระองค์รักใครพระองค์จะตีสอนผู้นั้น
วันนี้ฉันพยายามทำตัวให้ร่มเย็น เป็นสุข
พอความร่มเย็นพัดสู่ใจ...ความสุขก็เกิดขึ้น
วันนี้ฉันนิ่งฟังแม้ว่าจะรู้สึกโต้แย้งบ้าง
ในบางช่วงฉันแสดงความคิดเห็น
ในความถูกต้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ไม่ได้แก้ตัวอันใด เพียงแต่อยากชี้แจงให้รับทราบ
............
พระวาจาที่ฉันได้รับโดยบังเอิญวันนี้
ทำให้ฉันย้อนกลับมาคิดอีกแล้วว่า
บางช่วงเวลาที่ฉันต้องการความสุข ความร่มเย็น
แม้ในช่วงเวลาที่ผิดพลาด มีปัญหา ผิดหวัง
ฉันก็ยังอยากที่จะเลือกเดินเข้าไปอยู่ในที่ที่เย็นใจ
แต่บางที...การยอมรับฟัง ยอมรับความทุกข์ยากเสียบ้าง
มันก็จะมีประสบการณ์ดีดีในเหตุการณ์เหล่านั้น
การที่ฉันยอมรับที่จะเป็นฝ่ายผิดเสียบ้าง
มันก็ดีและสมควรแล้วมิใช่หรือ
เพราะหากชีวิตฉัน มีแต่ความราบรื่นมากเกินไป
ฉันเองก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่า...พระองค์ยังทรงรักฉันอยู่หรือเปล่า
เพราะหากพระองค์ทรงรักฉัน พระองค์จะทรงตีสอนฉันบ้าง
เหมือนพ่อแม่ที่ตีสอนลูกไม่เคยว่างเว้นเลย
เพื่อให้ลูกได้ดีใช่ไหม
....................................
ฉันเคยถามเด็กๆ ว่า
ถ้าฉันไม่แตะต้องเขา
ไม่เห็นพวกเขาในสายตา
เขาจะสบายใจไหม
เขาบอกว่าไม่สบายใจ
ฉันเองก็คงไม่ต่างกับเด็กน้อยเหล่านั้น
การถูกทอดทิ้งให้อยู่กับความสบายจะทำให้เสียนิสัย
หากฉันโดนตีสอนบ้างเพื่อรับประสบการณ์ใหม่ๆ
และความรักจากพระองค์
ฉันก็ไม่ควรหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธเลย
.................................
ขอให้ฉันมีจิตใจที่นบนอบพอที่จะยอมรับกับการถูกตีสอนบ้าง
เพื่ออย่างน้อยฉันก็ยังได้สัมผัสว่า
พระองค์ยังทรงรักฉันอยู่
...............