“ทุกสิ่งที่ท่านผูกในโลก จะผูกไว้ในสวรรค์
และทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในโลก
ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย”
(มธ 18:18)

........................................................................

พันผูกด้วยใจ ห่วงใยอาทร
พระเยซูเจ้าทรงมอบอำนาจนี้ให้กับนักบุญเปโตร
และพระศาสนจักรของพระองค์
แต่ถึงกระนั้น...ในฐานะคริสตชนคนหนึ่ง
การปฏิบัติตามข้อคำสอนของพระศาสนจักร
ก็เป็นหนทางที่ดี ที่จะทำให้เราไม่ตกอยู่ในบาปง่ายๆ
ถึงตรงนี้..ก็ละอายแก่ใจที่จะบอกว่าตนเองปฏิบัติตามข้อคำสอนนั้นๆ
ไม่บกพร่องสิ่งใดเลย..เพราะมันเป็นไปไม่ได้
นอกจากฉันจะเห็นท่อนฟืนในตาตัวเองแล้ว
ยังเห็นท่อนซุงใหญ่พาดขวางอยู่ในใจด้วย

.....................
ทุกเช้าในวิชาคำสอน
ฉันสอนนักเรียนสวดบทภาวนาบทใหม่ทุกวัน
พระบัญญัติพระเจ้า และพระบัญญัติพระศาสนจักร
รวมถึงบัญญัติเอกของคริสตศาสนา...”บัญญัติแห่งความรัก”
มีการแก้ไข ปรับเปลี่ยนให้ชีวิตและสมองได้พัฒนามากยิ่งขึ้น
เรียนรู้ไปพร้อมกับเด็กๆ
เมื่อเด็กๆ ท่องถึงช่วงบทบัญญัติเหล่านี้
ฉันมักทบทวนตัวเองตามบทบัญญัติเป็นรายข้อไป
ยิ่งทบทวนทุกวันยิ่งรู้สึกละอายและเหนื่อยหน่ายตัวเอง
แล้วพระองค์จะทรงรู้สึกเช่นไร
กับลูกๆมากมายของพระองค์
ต่างคนก็ต่างจิตต่างใจ ต่างลักษณะนิสัย
...ฉันอ่านหนังสือของลูกเล่มหนึ่ง
ทายนิสัยจากสิ่งต่างๆ
เขาว่า บางคนก็มักชอบใช้ใจมองมากกว่าใช้สมองมอง
ชอบใช้ใจตัดสินมากกว่าใช้สมองตัดสิน
พวกนี้เป็นพวกอ่อนไหวง่าย ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง
บางคนใช้สมองในการคิดตรึกตรองทุกอย่าง
ใช้ชีวิตอยู่บนเหตุและผลของการกระทำ
พวกนี้จะจริงจัง และมีความมั่นใจในตนเอง

...............................
คนเราแม้แค่การคิดตัดสินใจยังใช้คนละหลักการเลย
.......................
“ทุกสิ่งที่ผูกไว้ในโลกนี้
จะต้องมีตามผูกไปในโลกหน้า
บทบัญญัติแห่งรักจะเยียวยา
ช่วยรักษาวิญญาณ์ทุกคราไป”