14 กุมภาพันธ์

ในตอนเย็น วิญญาณของดิฉันมีความปรารถนายิ่งนัก ดิฉันหยิบเอาหนังสือภาวนาเล่มเล็ก พร้อกับพระรูปพระเยซูผู้ทรงเมตตา มาไว้แนบอก และคำพูดเหล่านี้ก็พรั่งพรูออกมา "ข้าแต่พระเยซูเจ้า องค์ความรักนิรันดร ลูกมีชีวิตอยู่เพื่อพระองค์ ลูกยอมตายเพื่อพระองค์ และลูกปรารถนาจะชิดสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์" ทันใดนั้น ดิฉันเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าปรากฎมางดงามสุดพรรณนา พระองค์ทรงมาหาดิฉันอย่างเมตตา และตัสว่า "ลูกเอ๋ย เราก็เช่นกัน เราจากสวรรค์มาเพราะความรักที่เรามีต่อลูก เราดำรงชีวิคอยู่เพื่อลูก เรายอมตายเพื่อลูก และเราสร้าฟ้าสวรรค์ก็เพื่อลูก" พระเยซูเจ้าทรงแนบดิฉันไว้กับพระทัยของพระองค์ ตรัสว่า "จงมีใจสงบเถิด ลูกรัก เร็วๆนี้แหละ" เมื่อดิฉันอยู่คนเดียว วิญญาณดิฉันก็เร่าร้อนไปด้วยความปรารถนาที่จะรับทุกข์ทรมาน จนกว่าจะถึงเวลาที่พระเยซูเจ้าตรัสว่า "พอแล้ว" และแม้ดิฉันจะมีชีวิคอยู่นับพันปี ดิฉันก็แลเห็นในแสงสว่างของพระเป็นเจ้าว่า นั่นเป็นเพียงแต่ชั่วขณะ วิญญาณ..[ความคิดที่เขียนไม่จบ] (853)

ในระหว่างการรำพึงในตอนเช้า ดิฉันรู้สึกเบื่อหน่ายและเอือมระอา สิ่งสร้างทั้งหมด ทุกสิ่งดูหม่นหมองอยู่ตรงหน้า และวิญญาญดิฉันก็ออกห่าง จากสิ่งเหลานั้น ดิฉันปรารถนาเพียงพระเป็นเจ้าเท่านั้น แต่ดิฉันก็ยังต้อง ดำเนินชีวิตต่อไป สิ่งนี้เป็นมรณสักขีกรรมที่โพ้นคำบรรยาย พระเป็นเจ้าทรง เผยพระองค์เองแก่วิญญาณที่ทรงรัก และนำวิญญาณนั้นไปสู่ห้วงลึกแห่งพระ เทวภาพของพระองค์ แต่ในขณะเดียวกัน พระองค์ก็ทรงปล่อยวิญญาณนั้น ให้อยู่ในโลก เพียงเพื่อให้วิญญาณนั้นทุกข์ทรมาน และขาดใจเพราะความ ปรารถนาในพระองค์ และความรักมันคงนี้บริสุทธิ์จนว่า พระเป็นเจ้าเองชื่นชม ยินดีในความรักนี้ และความรักตนเองไม่อาจเทียบได้เลย เพราะในที่นี้ ทุกสื่ง ทุกอย่างจะเต็มตื้นไปด้วยความขมขื่น แต่ก็ยังบริสุทธิ์ครบครัน ชีวิตเป็นการ ตาย การรับความเจ็บปวด และควาามหวาดกลัวอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะ เดียวกันก็แฝงไว้ด้วยชีวิตที่แท้จริง ความสุขอันโพ้นความเข้าใจ และพละกำลังของวิญญาณ ด้วยเหตุนี้ [วิญญาณ] ก็สามารถทำการใหญ่ได้เพื่อพระเป็นเจ้า (856)

*****************************