9 กุมภาพันธ์

ในการรำพึงถึงจุดหมาย กล่าวคือการเลือกความรัก วิญญาณต้องรัก วิญญาญต้องการความรัก วิญญาณต้องเปลี่ยนกระแสความรักไปสู่พระเป็นเจ้า มิใช่ไปอยู่ในโคลนตมหรือสูญญากาศ ดิฉันมีความสุขยิ่งนักเมื่อรำพึงถึงสิงนี้ ดิฉันรู้สึกได้อย่างแท้จริงว่า พระองค์ทรงประทับอยู่ในดวงใจของดิฉัน พระเยซูเจ้าแต่พระองค์เดียวเท่านั้น ดิฉันรักสิ่งสร้างตราบเท่าที่พวกเขาช่วยให้ ดิฉันเป็นหนึ่งเดียวกับพระเป็นเจ้า ดิฉันรักคนอื่นๆ เพราะดิฉันเห็นพระเป็นเจ้า ในตัวพวกเขา (373)

ความรักเพียงอย่างเดียวมีความหมาย ความรักเชิดชูการกระทำที่เล็กน้อยด้อยสุดไป สู่ความมิรู้สิ้นสุด (502)

พระเยซูเจ้าข้า แท้จริงแล้วลูกไม่ทราบว่าลูกจะมีชีวิตโดยปราศจากพระองค์ได้อย่างไร ดวงใจของลูกสนิทสัมพันธ์กับดวงพระทัยของพระองค์ ไม่มีใครสามารถเข้าใจสิ่งนี้ได้จริงๆ เราต้องดำรงอยู่ในพระองค์ก่อน เพื่อที่จะสามารถมองเห็นพระองค์ได้ในคนอื่น (503)

พระเยซูเจ้าข้า ลูกปรารถนาจะทนทุกข์ทรมาน และถูกเผาผลาญด้วยไฟรักของพระองค์ ในทุกสถานการณ์ของชีวิต ลูกเป็นของพระองค์ เป็นของพระองค์อย่างสิ้นเชิง และลูกปรารถนาจะอันตรธานไปในพระองค์ ข้าแต่พระเยซูเจ้า ลูกปรารถนาจะจดจ่อ อยู่กับความงามศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ พระองค์ทรงชักชวนลูกด้วยความรักของพระองค์ ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดทะลวงผ่านวิญญาณลูกประหนึ่งลำแสงของดวงอาทิตย์ และเปลี่ยนความมืดให้กลายเป็นความสว่างของพระองค์ ลูกรู้สึกมีชีวิตชีวาเมื่อลูกได้ดำรงชีวิตอยู่ในพระองค์เหมือนกับประกายไฟเล็กๆ ที่ลูกกลืนหายไปในกองไฟที่ไมอาจเข้าใจได้ ซึ่งพระองค์ได้ทรงเผาผลาญ ข้าแต่องค์พระตรีเอกภาพ ผู้สูงส่งเกินกว่าจะเข้าใจได้ ไม่มีสุขใดที่ยิ่งใหญ่ไปกว่าความรักในพระเป็นเจ้า บนโลกนี้เราสามารถลิ้มรสความบรมสุขของชาวสวรรค์ได้ ด้วยการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเป็นเจ้า ความเป็นหนึ่งเดียวนี้พิเศษ และมีหลายครั้งที่เราามสามารลเข้าใจได้ เราอาจได้พระหรรษทานเช่นนั้นมา อาศัยความสัตย์ซื่ออย่างเรียบง่ายของวิญญาณ (507)

*****************************